รีเซต

ผลการค้นหา “大手前大学 Mechanical Manufacturing Degree<网址:zjw211.com>-哪里买大手前大学 Mechanical Manufacturing Degree{官网:bzw985.com}-秦皇岛大手前大学 Mechanical Manufacturing Degree哪里做-哪里办大手前大学 Mechanical Manufacturing DegreeMg” - ทรูไอดี

ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
รีวิว Mechanical Keyboard - LOGA
อ่าน

รีวิว Mechanical Keyboard - LOGA

เพิ่งเข้าวงการคีย์บอร์ดได้ไม่นานเลยอยากมารีวิว คีย์บอร์ด 2 ตัวที่เราซื้อมาจากแบรนด์ LOGA ผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้ด้วยค่ะ LOGA (โลกา) เป็นแบรนด์คีย์บอร์ดจากคนไทย โดยคุณอรรถวุฒิ เสริมเลขาวิลาศ โดยแบรนด์มุ่งเน้นให้เด็กไทยได้ใช้คีย์บอร์ดเกมมิ่งเกียร์คุณภาพดี ในราคาประหยัด คีย์บอร์ดสื่อความเป็นไทยในการตั้งชื่อและตัวสินค้าต่างๆ แบรนด์ไม่ได้ขายแค่คีย์บอร์ดแต่ยังมีคีย์แคป (keycap) เม้าส์ (mouse) ที่รองเม้าส์ (mousepad) เก้าอี้และอุปกรณ์เสริมต่างๆตัวนี้คือรุ่น LOGA RAVANA 2 : SIRIMONGKOL EDITION เราได้มาจากงาน Commart ที่ผ่านมา เป็นคีย์บอร์ด 98% ใช้ได้ทั้ง Windows และ Mac มีสวิชให้เลือก 2 แบบ คือ นมเย็น (Linear) และ ชาไทย (Tactile) เราเลือกสวิชชาไทยมาเพราะลองกดแล้วชอบเสียงตอนอยู่บนรุ่นนี้ คีย์แคปเด้งสู้มือ มีน้ำหนักแต่ไม่เท่าอีกรุ่น มีไฟลอด ในงานเราได้โค้ดลดอีก 20% เหลือประมาณ 2,952 บาท จากราคาเต็ม 3,690 บาท ในงานคอมมาร์ทแถมคีย์แคป LOGA METALLIC KEY CAP SERIES: SIRIMONGKOL มาให้ด้วย (ตัวปุ่ม esc) ราคา 349 บาท ตัวนี้เราซื้อคีย์แคปมาเปลี่ยน เป็นรุ่น LOGA X PIMDIT: THAI MUTELU KEYCAP SET เซทนี้จะให้มาแค่คีย์แคป 129 ตัว ราคา 1,790 บาท มีอักษรทั้งไทยและอังกฤษ ลายน่ารักมากๆ เน้นสีม่วงผสมผสานสีอื่น สดใส โดดเด่น ตัวนี้คือ LOGA YAKSA 65AL Aluminium Wireless Mechanical Keyboard รุ่นนี้ถือว่าหนักเลย ไม่สะดวกต่อการพกพา เพราะเป็นอลูมิเนียม เราเลือกสวิชนมเย็น (Linear) มา เสียงเพราะมากกกก แต่เป็นโมเดล 65% อาจจะใช้ไม่สะดวกเท่ารุ่นที่แล้วที่มี numpad และปุ่ม F1-F10 มาให้ แต่เราซื้อตัวนี้เพราะเสียงและสี สีน่ารักมากๆ ชื่อสีว่า Vanilla Caramel Biscuits มีไฟลอดปรับได้หลายสี ตัวนี้เราซื้อในแอปส้ม เลือกร้านที่มีโค้ดคุ้มทุกวันอังคาร เลือกลด 20% และใช้ coin ที่มีอีกประมาณ 500 coins เสร็พสรรพเหลือ 2,977 บาท ผ่อนได้ 3 เดือนและได้ E-Tax อีกด้วย ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เครดิตภาพโดยผู้เขียน TheOnlySunshineเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

ส่องนาฬิกา Tag Heuer Monaco Split-Seconds Chronograph Air เทคโนโลยี Additive Manufacturing สุดล้ำ
อ่าน

ส่องนาฬิกา Tag Heuer Monaco Split-Seconds Chronograph Air เทคโนโลยี Additive Manufacturing สุดล้ำ

TAG Heuer ยกระดับการสร้างนาฬิกาเรือนหรูอีกขั้นด้วยการเปิดตัว Monaco Split-Seconds Chronograph Air 1 นาฬิการุ่นพิเศษที่ไม่เพียงเป็นผลงานโครโนกราฟขั้นสูงเท่านั้น แต่ยังเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ในด้านเทคโนโลยีการผลิตยุคใหม่อย่าง Additive Manufacturing หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ 3D Printing ชื่อ Air 1 อาจทำให้หลายคนแอบคิดถึงรองเท้ารุ่นดังของ Nike หรือเครื่องบินประจำตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่าง Air Force One แต่แท้จริงแล้ว Air ในที่นี้ หมายถึง สถาปัตยกรรมตัวเรือนแบบโปร่ง (open-worked) ที่ถูกออกแบบให้ดู ลอยตัว และ เบาดุจอากาศ ซึ่งเกิดจากเทคนิคการสร้างแบบใหม่ทั้งหมดของ TAG Heuer เอง Additive Manufacturing เมื่อการพิมพ์สามมิติเข้าสู่วงการ Haute Horlogerie เทคนิค Additive Manufacturing หรือ การผลิตแบบเติมเนื้อวัสดุ เป็นกระบวนการที่ตัวเรือนถูกสร้างขึ้น ทีละชั้น ด้วยการหลอมโลหะตามแบบจำลองคอมพิวเตอร์อย่างละเอียด ในกรณีของ TAG Heuer ใช้เทคโนโลยีเฉพาะที่เรียกว่า Selective Laser Melting (SLM) กระบวนการที่เลเซอร์พลังสูงหลอมและเชื่อมผงโลหะเข้าด้วยกันจนกลายเป็นโครงสร้างชิ้นเดียว ข้อดีของเทคนิคนี้คือ สามารถสร้าง รูปทรงภายในที่ซับซ้อน ซึ่งวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมไม่สามารถทำได้ เช่น ช่องกลวงภายในโครงสร้าง หรือการถักตาข่ายรูปทรงเรขาคณิตที่ให้ทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักเบาอย่างน่าทึ่ง การออกแบบที่ผสานศิลป์กับวิศวกรรม แรงบันดาลใจจากสนามแข่ง F1 Monaco Split-Seconds Chronograph Air 1 โดดเด่นด้วยโครงสร้างแบบ Honeycomb Lattice ภายในตัวเรือน ซึ่งเผยให้เห็นผ่านพื้นผิวแบบโปร่งและช่องเปิดที่ถูกออกแบบให้ดูราวกับผ่านการจำลองในอุโมงค์ลม เหมือนดีไซน์ของรถแข่ง Formula 1 ที่ทั้งสวยงามและมีเหตุผลทางวิศวกรรมรองรับทุกเส้นสาย ตัวเรือนมีขนาด 41 มิลลิเมตร หนา 15.2 มิลลิเมตร ผลิตจาก ไทเทเนียมเกรด 5 ผสมกับ ทองคำ 2N Yellow Gold ขอบตัวเรือนเคลือบ DLC สีดำ สร้างคอนทราสต์ที่เฉียบคมระหว่างสีดำ เทา และทองอย่างลงตัว แม้จะมีองค์ประกอบของทองคำ แต่ด้วยโครงสร้างภายในแบบกลวง น้ำหนักรวมของเรือนนี้อยู่เพียง 85 กรัม เท่านั้น หน้าปัดที่เผยกลไกภายใน พร้อมระบบโครโนกราฟสุดซับซ้อน ด้านหน้าปัดออกแบบแบบ เปิดโล่ง (Openworked Dial) เผยให้เห็นความซับซ้อนของกลไกภายใน พร้อมดีไซน์แบบ Tricompax Layout ที่จัดเรียงซับไดอัลสามช่อง ได้แก่ เข็มวินาทีเล็ก ตัวจับเวลา 12 ชั่วโมง และ 30 นาที สิ่งที่ทำให้เรือนนี้พิเศษกว่ารุ่นอื่นคือการเป็น Split-Seconds Chronograph หรือ โครโนกราฟจับเวลาสองรอบพร้อมกัน ซึ่งมี เข็มวินาทีซ้อนกันสองชุด ที่สามารถเริ่มต้นพร้อมกันแต่หยุดได้อิสระจากกัน เพื่อเปรียบเทียบเวลาระหว่างผู้แข่งขันหรือเหตุการณ์ได้อย่างละเอียด นี่คือหนึ่งในกลไกที่ซับซ้อนและทรงเกียรติที่สุดในวงการนาฬิกา หน้าปัดทำจาก แซฟไฟร์ใส (Sapphire Dial) เคลือบเครื่องหมายสีขาว ซับไดอัลเคลือบดำแบบ Black Opaline ตัดกับเข็มเคลือบแลกเกอร์สีทองและโรเดียม พร้อมพรายน้ำ Super-LumiNova เพื่อการมองเห็นชัดเจนในทุกสภาพแสง หัวใจแห่งความเที่ยงตรง กลไก TH81-00 ความถี่สูง 5Hz ภายในบรรจุกลไก TAG Heuer TH81-00 แบบโครโนกราฟจับเวลาสองรอบ ระบบอัตโนมัติความถี่สูง 5 เฮิรตซ์ (36,000 ครั้ง/ชั่วโมง) ให้พลังงานสำรอง 68 ชั่วโมง กลไกนี้พัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือกับ Vaucher Manufacture Fleurier หนึ่งในโรงงานผลิตกลไกระดับสูงของสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ LVMH ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TAG Heuer ยังได้เข้าถือหุ้นใน La Joux-Perret ผู้เชี่ยวชาญด้านกลไกโครโนกราฟที่เคยร่วมพัฒนาเครื่องยนต์ให้กับคอลเลกชัน Aquaracer และ Formula 1 มาก่อน ทำให้ Air 1 เรือนนี้สะท้อนถึงเครือข่ายพันธมิตรด้านวิศวกรรมกลไกระดับโลกของ TAG Heuer อย่างแท้จริง ราคาหรูในจำนวนจำกัด สะสมได้ มีคุณค่าทางเทคโนโลยี TAG Heuer Monaco Split-Seconds Chronograph Air 1 ผลิตจำกัดเพียง 30 เรือนทั่วโลก จำหน่ายในราคา CHF 150,000 หรือประมาณ 143,400 (ราว 5.7 ล้านบาท) มาพร้อมสาย ยางสีดำ (Black Rubber Strap) และบานพับไทเทเนียมเคลือบ DLC แม้ดีไซน์จะดู จัดเต็ม และเต็มไปด้วยรายละเอียดในแนวไซไฟสมัยใหม่ แต่ทุกองค์ประกอบล้วนออกแบบมาเพื่อแสดงศักยภาพของเทคนิค Additive Manufacturing ให้เห็นอย่างชัดเจน ทั้งความแม่นยำ การลดน้ำหนัก และการเปิดมิติใหม่ของการออกแบบนาฬิกาหรูในศตวรรษที่ 21 สรุปสเปกสำคัญ รุ่น: TAG Heuer Monaco Split-Seconds Chronograph Air 1 รหัส: CBW218B.FT8124 ตัวเรือน: ไทเทเนียมเกรด 5 / ทองคำ 2N / ขอบ DLC ดำ ขนาด: 41 มม. / หนา 15.2 มม. น้ำหนัก: 85 กรัม หน้าปัด: แซฟไฟร์เปิดโล่ง / ซับไดอัลดำ / เข็มทองโรเดียม / พรายน้ำ Super-LumiNova กันน้ำ: 30 เมตร (3 บาร์) กลไก: TH81-00 อัตโนมัติ / ความถี่ 5Hz / พลังงานสำรอง 68 ชม. ฟังก์ชัน: ชั่วโมง นาที วินาที โครโนกราฟ และจับเวลาสองรอบ (Split-Seconds) สาย: ยางสีดำ / บานพับไทเทเนียมเคลือบ DLC จำนวนผลิต: 30 เรือนทั่วโลก ราคา: CHF 150,000 ( 143,400 / 5.7 ล้านบาท) บทความที่คุณอาจสนใจ ยลโฉมนาฬิกา TAG Heuer Monaco Chronograph CBL218B.FT6236 ราคาเท่าไหร่ ยลโฉม TAG HEUER X SENNA รุ่นนักขับระดับตำนาน ผลิตกี่เรือน ราคาเท่าไหร่ ยลโฉมนาฬิกา TAG Heuer Monaco Chronograph Racing Green ราคาเท่าไหร่ผลิตกี่เรือน เปิดโฉม TAG Heuer Connected Calibre E4 x Oracle Red Bull Racing Edition ราคาเท่าไหร่ เปิดราคาส่องสเปค The TAG Heuer x Kith Formula 1 โดนใจขนาดไหนราคาเปิดตัวเท่าไหร่

Pre-degree ม.ราม
อ่าน

Pre-degree ม.ราม

การเรียน Pre-degree คืออะไรรู้จัก Pre-degree ม.รามคำแหงโดยที่ระบบ Pre-degree เป็นการเรียนรายกระบวนวิชาเก็บหน่วยกิตที่ได้สะสมไว้เทียบโอน เมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ทำให้น้อง ๆ สามารถเรียนจบปริญญาตรีได้เร็วยิ่งขึ้น และในบทความนี้ แคมปัส-สตาร์ จะพาน้อง ๆ ทุกคนไปทำความรู้จักกับระบบ Pre-degree กันให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังรวมถึงเรื่องกำหนดการสอบ ค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการเรียน และข้อดีของการเรียน Pre-degree ที่จะช่วยทำให้เราสามารถพัฒนาตนเองได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยPre-degree คืออะไร?สำหรับการเรียนระบบ Pre-degree เป็นการเรียนปริญญาตรีล่วงหน้า โดยที่น้อง ๆ จะต้องใช้วุฒิการศึกษาชั้น ม.3 และจะต้องกำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.ปลาย ปวช. ปวส. หรือ กศน. จากนั้นเมื่อน้อง ๆ เรียนจบในระดับชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 ก็จะสามารถเทียบโอนหน่วยกิตที่สะสมเอาไว้ไปเรียนในภาคปกติของมหาวิทยาลัยได้ มหาวิทยาลัยรามคำแหงมีหลักสูตรที่เปิดสอนในระบบ Pre-degree ดังต่อไปนี้คณะนิติศาสตร์คณะบริหารธุรกิจคณะมนุษยศาสตร์คณะศึกษาศาสตร์คณะวิทยาศาสตร์คณะรัฐศาสตร์คณะเศรษฐศาสตร์คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์คณะสื่อสารมวลชน(ขอบคุณภาพจาก https://campus.campus-star.com/education/33544.html) เปิดรับสมัครเวลาสอบ ทางมหาวิทยาลัยรามคำแหงจะจัดการสอบหลังจากที่โรงเรียนปิดเทอมแล้ว โดยได้แบ่งออกเป็น 2 ภาคเรียน ได้แก่ภาคเรียนที่ 1 สอบประมาณเดือนตุลาคมภาคเรียนที่ 2 สอบประมาณเดือนมีนาคมเอกสารที่จะต้องนำมายื่นในวันสมัครหนังสือสำคัญแสดงคุณวุฒิสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3)สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 2 ฉบับสำเนาบัตรประชาขน หรือบัตรหน่วยงานราชการออกให้ จำนวน 3 ฉบับกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลง ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด ให้ถ่านสำเนา จำนวน 2 ฉบับใบสมัครและใบขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา (ม.ร.2.) พร้อมติดรูปถ่ายสีขนาด 2 นิ้ว จำนวน 1 รูปแผ่นระบายระเบียนประวัตินักศึกษา (ม.ร.25)**หมายเหตุ  ไม่อนุญาตให้ใช้สำเนาหนังสือรับรองว่ากำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายมาสมัครค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการเรียนค่าสมัครเข้าศึกษา 500 บาทค่าขึ้นทะเบียนเข้าศึกษา 300 บาทค่าบัตรประจำตัวนักศึกษา 60 บาทค่าบำรุงมหาวิทยาลัย 300 บาทค่าลงทะเบียนเรียนหน่วยกิตละ 50 บาท (จำนวนเงินขึ้นอยู่กับหน่วยกิตที่ลงทะเบียน)วิธีการเรียนเรียนจากห้องเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงตำราอิเล็กทรอนิกส์ (e-Book)ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ (www.lib.ru.ac.th)ด้วยระบบบรรยายสดผ่านอินเทอร์เน็ต (Cyber Classroom)เรียนด้วยระบบ E-Learningเรียนด้วยระบบ Coures On Demandเรียนจาก DVD บันทึกคำบรรยายกระบวนวิชาเกณฑ์การให้คะแนนส่วนเกณฑ์การให้คะแนนของการเรียนการสอนในแบบ Pre-degree ส่วนใหญ่จะใช้เป็นคะแนนสอบ 100% โดยแบ่งเป็นเกรดเหมือนกับมหาวิทยาลัยทั่วไป แต่ในบางรายวิชาก็อาจจะมีการมอบหมายงานจากอาจารย์ผู้สอนให้ไปทำงานมาส่ง เพื่อทำการเก็บคะแนนจากงานอีกด้วย เนื่องจากคนที่สมัครเรียนกับมหาวิทยาลัยรามคำแหงสามารถเลือกได้ว่าจะเข้ามาเรียนหรือไม่เข้ามาเรียนก็ได้ แต่ต้องเข้ามาสอบให้ครบทุกวิชา และในปัจจุบันมหาวิทยาลัยรามคำแหงก็ได้ทำการเปิดการเรียนการสอนในวันเสาร์-อาทิตย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นน้อง ๆ จึงสามารถที่จะเลือกเรียนได้ว่าจะเรียนแบบไหน ตามที่เราสะดวกหรือว่าได้เลยข้อดีของการเรียน Pre-degreeทำให้น้อง ๆ จบปริญญาตรีเมื่ออายุยังน้อยและมีทางเลือกอีกมากมายในการศึกษาต่อ หรือเลือกที่จะประกอบอาชีพก็ได้ช่วยเสริมการเรียนในระดับ ม.ปลาย ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นช่วยให้รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ทำให้น้อง ๆ สามารถพัฒนาตัวเองได้มากยิ่งขึ้น และการเรียนในแบบ Pre-degree ยังช่วยทำให้น้อง ๆ เรียนเข้าใจมากยิ่งขึ้นในระดับ ม.ปลาย อีกด้วยการเรียน Pre-degree แบบออนไลน์ ทำให้น้อง ๆ มีอิสระในการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น เพราะสามารถที่จะย้อนฟังวิชาที่อาจารย์สอนซ้ำได้แบบอย่างรุ่นพี่จบ Pre-degree ประสบความสำเร็จในวิชาชีพ(ขอบคุณภาพจาก https://www.ru.ac.th/th/Predegree/index2) เปิดใจนักเรียน ม.ปลาย... ทำไมเรียน Pre-degree(ขอบคุณภาพจาก https://www.ru.ac.th/th/Predegree/index2)มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของลูกพ่อขุนไปด้วยกันนะ#พี่ที่แสนดีขอบคุณข้อมูล: https://campus.campus-star.com/education/63297.html   

เรียน Pre-degree ม.รามคำแหง ยากมั้ย?
อ่าน

เรียน Pre-degree ม.รามคำแหง ยากมั้ย?

เรียน Pre-degree ม.รามคำแหง ยากมั้ย? แบ่งเวลายังไง?สำหรับน้องๆที่กำลังสนใจระบบการเรียนแบบ Pre-degree ของ ม.รามคำแหง ที่เป็นทางเลือกหนึ่งในการค้นหาตัวเองในอนาคตโดยประหยัดทั้ง เวลา กับ ค่าเทอม ที่ไม่แพง และคุ้มค่า แต่ต้องแลกมากับความขยัน มีวินัย อดทน ของตัวเอง.......เริ่มสมัครได้ตั้งแต่อายุ15 ใช้วุฒิม.3 สมัครได้เลย!! ติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านทางเว็บไซต์ www.ru.ac.th หรือทางเพจของทางมหาวิทยาลัย PR Ramkhamhaeng University   ซึ่งวันนี้เราจะนำประสบการณ์ของตัวเราเองมาแบ่งปันให้กับน้องๆเป็นแนวทางในการวางแผนนะคะเราเป็นนักเรียนพรีดีกรีคนนึง คณะสื่อสารมวลชน ของส่วนภูมิภาค ที่ตอนนี้กำลังจะขึ้นปี3แล้ววววว เย่ๆๆๆๆ!!! (ม.5กำลังจะขึ้นม.6)โดยจุดเริ่มต้นที่มาเรียนระบบนี้เมื่อตอนเราอายุ15ปี ใช้วุฒิม.3ของเราในการสมัคร ตอนแรกคือเกิดจากการที่พี่ชายของเราเรียนพรีดีกรีของรามเหมือนกัน ส่วนตัวพี่ชายเราเรียนคณะนิติศาสตร์ คุณแม่เราเลยอยากให้เราเรียนพรีดีกรีเหมือนพี่ชาย โดยแม่บอกเหตุผลว่าค่าหน่วยกิตถูกและประหยัดเวลา ไม่ต้องเข้าเรียน อ่านหนังสือ ฟังบรรยายไปสอบอย่างเดียว  และสามารถเรียนจบปริญญาตรีภายในอายุ19ปี ถ้าขยัน อดทน มีระเบียบวินัยต่อตัวเอง ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามากๆ ส่วนตัวเราในตอนนั้นคือใจเราอยากเรียนแบบปกติ และตั้งใจจะเข้าคณะที่เกี่ยวกับภาษาด้วยซ้ำ แต่พอแม่บอกว่าถ้าเราเริ่มต้นได้เร็วกว่าคนอื่นมันจะดีต่อตัวเราในอนาคต เราคิดว่าด้วยความที่ถ้าเราเรียนจบได้เร็วเราอยากจะทำงานหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว ซึ่งด้วยความที่เราสนใจอยากจะเรียนคณะมนุษยศาสตร์ แต่คณะนี้มีแค่ในส่วนกลาง(คือต้องไปสอบวันธรรมดาที่ม.รามคำแหงหรือที่กรุงเทพ) ซึ่งเราไม่ได้สะดวกขนาดนั้นเพราะเราอยู่ตจว. จึงไปศึกษาดูว่ามีคณะอะไรบ้างในส่วนภูมิภาคที่เราสนใจ ก็จะมี4คณะ ได้แก่ คณะนิติศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ คณะสื่อสารมวลชน และคณะรัฐศาสตร์ ณ ตอนนั้นแม่เราแนะนำให้เรียนรัฐศาสตร์ แต่เราก็ไม่ได้ชอบขนาดนั้นเลยคุยกับแม่ว่าจะเรียนสื่อสารแทนเพราะเราชอบดูพวกสื่อต่างๆหรือชอบการพูดสื่อสาร(ส่วนตัวเป็นคนพูดไม่รู้เรื่อง เข้าใจยากด้วยแหละ555) แม่ก็เห็นด้วยเพราะด้วยความที่เราสื่อสารกับคนไม่รู้เรื่องมันก็เหมือนเรียนอันนี้แล้วเราจะได้มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นและได้พัฒนาตัวเองด้วย แต่อยากบอกว่าส่วนตัวเราเวลาอยู่กับเพื่อนมักจะเป็นผู้ฟังเสมอไม่ค่อยได้เล่าเรื่องของตัวเองสักเท่าไหร่ แม่ก็ถามว่าจะไปต่อยอดยังไง? เราในตอนนั้นก็ไม่รู้หรอกว่าจบไปจะทำอะไรแต่เราแค่เลือกในสิ่งที่เราชอบ คิดซะว่าเป็นการค้นหาตัวเองในขณะที่เราเรียนม.ปลายควบคู่ไปด้วย หลังจากที่คุยกันไปสักพักพอตกลงกันได้แม่เราก็สมัครให้เลย   เมื่อขึ้นม.4มาเป็นช่วงโควิด-19 เรียนออนไลน์ที่บ้านอยู่แต่บ้านเพราะออกไปไหนไม่ได้ เราเองก็เรียนแผนวิทย์-คณิต ซึ่งไม่ใช่แผนที่เราถนัดเท่าไหร่และไม่ชอบวิทย์คณิตเลย แต่ด้วยความที่แผนการเรียนนี้มันสามารถมีทางเลือกมากกว่าเลยอดทนตั้งใจเรียนมาเรื่อยๆ ระหว่างปิดเทอมออนไลน์เราก็สอบปีแรกของรามแบบออนไลน์คิดว่าโชคดีมากเลยที่สอบแบบออนไลน์ทำให้เรามีเวลาเตรียมอ่านมากพอ เราก็ลงวิชาเลย6ตัวจุกๆ ซึ่งปีนั้นเป็นหลักสูตรเก่าต้องลงวิชาบังคับเป็นวิชาพื้นฐาน แต่เปลี่ยนหลักสูตรใหม่ตั้งแต่ปี 65 ขึ้นไป ส่วนตัวเราทำข้อสอบได้นะ ได้ A มา 3 ตัวเลย มีเทคนิคคืออ่านชีทแดงของม.ราม เก่าๆหลายๆปี จดสรุปไปนิดหน่อยเพื่อให้กลับมาอ่านแล้วจำได้ง่าย แค่ขยันอ่านบ่อยๆก็ทำได้เองไม่ยากเลย ส่วนเรื่องแบ่งเวลานั้น แต่ละคนมีเวลาชีวิตเป็นของตัวเองบางคนต้องช่วยทำงานของที่บ้านก็ต้องแบ่งเวลาอ่าน หรืออย่างเราที่อยู่บ้านไม่ได้ทำอะไรสักเท่าไหร่ ค่อนข้างที่จะไม่ยุ่งมากก็เลยมีเวลาอ่านได้เยอะ บอกเลยปีแรกเราเครียดมากจนตอนที่สอบวิชาอังกฤษผ่านคอมเป็นตัวสุดท้าย เรามีอาการปวดท้อง ตาเบลอไปหมดอ่านตัวหนังสือแทบไม่ได้จนกระทั่งนั่งกดข้อสอบอยู่ดีๆก็อ้วกออกมาเลย ซึ่งตอนนั้นเราปวดปจด.ด้วย คือมันเป็นอุปสรรคต่อการทำข้อสอบมากๆเลย (วิชาสุดท้ายแล้วแท้ๆ!!!) หลังจากเริ่มปรับตัวมาเรื่อยๆบวกกับขึ้นม.5 ต้องมาเรียนที่รร. เราก็เรียนไปด้วยทำกิจกรรมไปด้วยแต่พอถึงช่วงที่สอบของรามเราบางทีเราก็มาอ่านที่รร.หลังเลิกเรียนเสร็จทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนเราเริ่มจัดระเบียบความคิด เวลา และความรับผิดชอบมากขึ้นมาเรื่อยๆดังนั้น ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เราต้องให้ความสำคัญกับตัวเอง อย่าพยายามพึ่งคนอื่น ไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร ไม่ว่าใครจะว่ายังไงกับเราไม่ต้องสนใจหรอก อยากทำอะไรก็ทำ แต่ละคนมีทางเลือกในแบบของตัวเอง เราก็เป็นคนนึงที่ไม่ได้เก่งอะไรแต่เราเป็นคนพยายาม ตั้งใจทำอะไรให้ดีที่สุด เราก็เชื่อว่าทุกคนทำได้นะ สู้ๆ!!!!!!!ส่วนเราในอายุ17 พอเป็นช่วงปิดเทอมของเด็กมัธยมทั่วไป เราจะใช้เวลาพักผ่อนของเด็กม.ปลายธรรมดาๆคนนึง ในการอ่านหนังสือ อ่านชีทแดง ของม.ราม เพื่อเตรียมตัวสอบปี2/เทอม2 ซึ่งลงไป5วิชา เป็นปรนัยทุกตัว....ถามว่าขี้เกียจมั้ยกับการต้องแบ่งเวลาอ่านหนังสือเอง ก็ขี้เกียจนะแต่เราก็ต้องสอบให้ผ่านเพื่อตัวเราเอง ส่วนตัวเราเตรียมตัวอ่านประมาณเดือนนึง ระหว่างที่อยู่บ้านก็อ่านชีทแดงสัก20-30นาทีแล้วไปดูยูทูปต่อ หรือบางทีฟังเพลงไปด้วยอ่านไปด้วย ให้มันrelax เพราะเราเป็นคนไม่ชอบความเครียด พอวันไหนอ่านเยอะเราก็จะพักแล้วดูศิลปินที่ชอบหรือดูอะไรตลกๆฮาๆให้ได้หัวเราะออกมา5555 ทำแบบนี้ทุกวัน หรือบางวันที่รู้สึกหมกมุ่นก็จะออกไปเที่ยวข้างนอกกินของอร่อยๆกับครอบครัวเพื่อเปิดหูเปิดตา ซึ่งส่วนมากเราจะสอบช่วงเสาร์อาทิตย์เพราะเป็นของภูมิภาค และสามารถเลือกศูนย์สอบตามแต่ละจังหวัดที่อยู่ใกล้บ้านเราได้ อย่างของเราอยู่จังหวัดระยอง แต่ไปสอบที่ศูนย์สอบที่จันทบุรี ตอนไปสอบคนก็ไม่ได้เยอะมาก มีหลากหลายวัย รู้สึกไม่ได้กดดันอะไรมากเพราะบรรยากาศในห้องสอบแอร์เย็น ไม่แออัด แต่ตอนมาสอบแรกๆก็ตื่นเต้นเป็นปกติแหละ แล้วก็ผ่านมาได้ด้วยดี ถ้าใครที่ไม่ชอบอยู่บ้านเฉยๆลองค้นหาตัวเองศึกษาทางเลือกดีๆให้ชีวิตดูนะคะ เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนนะคะ เราเองก็จะสู้ไปพร้อมกันเปลวเทียนให้แสง รามคำแหงให้ทาง    ขอบคุณภาพปกจาก : Piqselsภาพที่ 1 จาก : มหาวิทยาลัยรามคำแหง / www.ru.ac.thภาพที่ 2 จาก : มหาวิทยาลัยรามคำแหง / www.ru.ac.thภาพที่ 3 จาก : PR Ramkhamhaeng University / Official Page Facebook มหาวิทยาลัยรามคำแหงภาพที่ 4 จาก : PR Ramkhamhaeng University / Official Page Facebook มหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

เสน่ห์ของ Mechanical Keyboards การพิมพ์สนุกและการปรับแต่งที่ลงตัว
อ่าน

เสน่ห์ของ Mechanical Keyboards การพิมพ์สนุกและการปรับแต่งที่ลงตัว

ช่วงนี้เลื่อนฟีดไปไหนก็เจอแต่คนใช้ mechanical keyboards พิมพ์งานกันทั้งนั้น ตอนแรกนักเขียนก็รู้สึกเฉยๆ ว่าเรามีคีย์บอร์ดธรรมดาอยู่แล้ว มันจะไปต่างอะไร แต่พอดูเยอะ ๆ เข้า ก็เกิดความสนใจขึ้นมาเลยไปศึกษาเพราะมันมีหลายรุ่นมากๆๆๆ จนเลือกไม่ถูก มีหลายสวิตช์ด้วย แต่ก็จบที่รุ่นนี้ ที่ราคาบอกเลยบว่าสามารถเข้าถึงได้ง่ายแน่นอน ชื่อรุ่น "ajazz ak852" แต่อาจมีสีไม่ได้หลากหลายมาก ดทุกคนสามารถซื้อ key caps เพิ่มเติมได้เองเลยน้า เราว่าข้อดีของตัวนี้คือสามารถตกแต่งมันได้ พอเราเบื่อเราก็จับเปลี่ยนโฉมเลย การเปลี่ยน key caps ก็เป็นส่วนหนึ่งของความสนุกที่มาพร้อมกับการใช้งาน mechanical keyboard เพราะสามารถเลือกได้ตามความชอบ สีสันหรือลวดลายที่เราต้องการ ทั้งนี้ก็ยังคงคาแรคเตอร์ที่สำคัญของคีย์บอร์ดตัวนี้ คือความสะดวกสบายในการพิมพ์และเสียงที่ให้ความรู้สึกพิเศษเวลาที่เรากดปุ่ม นักเขียนว่าเสน่ห์ของคีย์บอร์ดรุ่นพวกนี้คือเสียงตอนที่กดเนี่ยแหละ จะมีความดังกว่าคีย์บอร์ดปกติ มีความสะใจ ทำให้เพิ่มความ productive ในการพิมพ์งานมากขึ้นเลย เสียงของ mechanical keyboard แบบนี้ทำให้เรารู้สึกว่าการพิมพ์งานเป็นเรื่องสนุกขึ้น แม้ว่าจะเป็นการทำงานที่ต้องใช้สมาธิ ก็ยังให้ความรู้สึกเหมือนการเล่นเครื่องดนตรีอยู่ในทุกครั้งที่กดแป้น แต่เสียงดังก็อาจจะเป็นจุดที่บางคนต้องพิจารณา ถ้าใครต้องทำงานในที่เงียบ หรือมีคนอื่นอยู่ใกล้ๆ อาจจะไม่ชอบเสียงที่ดังขนาดนี้นัก และข้อสังเกตที่เห็นได้ชัดอย่างนึงคือ ส่วนใหญ่แป้นจะเป็นภาษาอังกฤษล้วน หาแป้นไทยค่อนข้างมีน้อยนะคะ แต่ไม่ต้องกังวลใจไปเพราะทุกอย่างย่อมมีทางแก้ เขาก็มีร้านขายสติกเกอร์ภาษาไทยติดเพิ่มเติมให้คุณติด แทนที่แป้นตัวเดิมของคีย์บอร์ด จึงไม่ต้องห่วงว่าจะใช้ภาษาไทยไม่ได้อีกต่อไป ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งความสะดวกที่ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับตัวและปรับแต่งคีย์บอร์ดให้เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเองได้ง่ายๆ หากพูดถึงเรื่องราคาก็มีความหลากหลายมากตั้งแต่ช่วงหลักร้อยจนถึงหลักพันปลาย ๆ เลย สามารถเลือกตามความชอบ มันอาจต่างกันที่วัสดุ ฟังก์ชันต่าง ๆ มีไฟ ไม่มีไฟ โดยที่บางรุ่นจะมีไฟ RGB ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายโหมด ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนสีหรือการตั้งค่าให้ไฟเปลี่ยนตามจังหวะการกดปุ่ม ทำให้เพิ่มความสวยงามและความสนุกในการใช้งานไปอีกขั้น แต่หากใครไม่ชอบความยุ่งยากและต้องการความเรียบง่ายก็สามารถเลือกซื้อรุ่นที่ไม่มีไฟได้เหมือนกัน หรือบางรุ่นก็มีฟังก์ชันที่สามารถตั้งค่าการทำงานได้หลากหลาย เช่นการตั้ง macro, การเลือกสวิตช์ให้เหมาะสมกับการพิมพ์ของเรา หรือการตั้งค่าความแรงของการกดปุ่มก็ทำได้เช่นกัน ทั้งหมดนี้จึงทำให้ mechanical keyboards กลายเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องของความสะดวกสบายในการพิมพ์ แต่ยังเป็นเรื่องของการตกแต่งและการเพิ่มความสนุกให้กับการทำงานอีกด้วย รูปภาพทั้งหมดรวมหน้าปก โดย นักเขียน  เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

นาฬิกา CITIZEN Series 8 831 Mechanical ดีไซน์สปอร์ตรุ่นลิมิเต็ด เรียบหรูสไตล์ญี่ปุ่น
อ่าน

นาฬิกา CITIZEN Series 8 831 Mechanical ดีไซน์สปอร์ตรุ่นลิมิเต็ด เรียบหรูสไตล์ญี่ปุ่น

CITIZEN Series 8 ถือเป็นหนึ่งในคอลเลกชันที่หลากหลายที่สุดของ Citizen โดยมีทั้งนาฬิกาดำน้ำระดับมืออาชีพ นาฬิกา GMT และดีไซน์ขอบตัวเรือนที่เป็นเอกลักษณ์ ล่าสุด Citizen ได้นำเสนอความงดงามในรูปแบบของ Series 8 831 Mechanical รุ่นลิมิเต็ดที่ผลิตเพียง 1,800 เรือนทั่วโลก ซึ่งมาพร้อมหน้าปัดสีฟ้าอ่อนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องทะเล เพิ่มความโดดเด่นด้วยลวดลายเรขาคณิตที่สะท้อนแสงอย่างสวยงามเมื่อกระทบกับแสงแดด ดีไซน์ที่สะท้อนความหรูหราและความเท่อย่างลงตัว Citizen Series 8 831 Mechanical เป็นนาฬิกาสปอร์ตที่มีความแข็งแกร่งและสไตล์อันโดดเด่น ตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาด 40 มม. มาพร้อมขอบเหลี่ยมที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งและสง่างาม ผสานกับเทคนิคการขัดแต่งที่ผสมผสานระหว่างพื้นผิวแบบขัดเงาและขัดด้าน ทำให้เกิดมิติและเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวเรือน หนึ่งในจุดเด่นของรุ่นนี้คือหน้าปัดสีฟ้าอ่อนที่ Citizen อธิบายว่า "สะท้อนแสงราวกับผิวน้ำทะเลที่เงียบสงบในวันที่แดดจ้า" โดยสะท้อนผ่านลวดลายเรขาคณิตที่คลุมทั้งหน้าปัด ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาและมิติให้กับนาฬิกาอย่างโดดเด่น เสมือนแสงแดดสะท้อนบนผิวน้ำทะเลสมคำบรรยาย ประสิทธิภาพการทำงานที่เชื่อถือได้ นาฬิการุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ Calibre 9051 ของ Citizen ซึ่งมีความแม่นยำที่ -10 ถึง +20 วินาทีต่อวัน เดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง (4Hz) และสำรองพลังงานได้นานถึง 42 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีความสามารถในการต้านสนามแม่เหล็กที่เพิ่มขึ้น ทำให้มั่นใจได้ว่ากลไกจะทำงานได้อย่างเสถียรแม้ในสภาพแวดล้อมที่มีแรงแม่เหล็กสูง Series 8 831 Mechanical ยังมาพร้อมกระจกแซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อนเพื่อให้การมองเห็นหน้าปัดเป็นไปอย่างชัดเจน และสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 100 เมตร เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการล้างมือ อาบน้ำ หรือทำกิจกรรมทางน้ำทั่วไป ถือเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์ได้หลากหลายอีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว ข้อมูลทางเทคนิค รหัสรุ่น: NB6051-59L ขนาดตัวเรือน: 40 มม. ความหนา: 11.6 มม. วัสดุตัวเรือนและสาย: สแตนเลสสตีล หน้าปัด: สีฟ้าอ่อนพร้อมลวดลายเรขาคณิต กระจก: แซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อน กลไก: อัตโนมัติ Calibre 9051 (สำรองพลังงาน 42 ชั่วโมง) ความถี่: 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง (4Hz) กันน้ำ: 100 เมตร (10 บาร์) ฟังก์ชัน: บอกเวลา ชั่วโมง/นาที/วินาที และวันที่ จำนวนจำกัด: 1,800 เรือน บทความที่คุณอาจสนใจ นาฬิกา SEIKO ผู้ชาย ราคาไม่เกิน 30,000 บาท รุ่นไหนดี หล่อ เท่ กับนาฬิกา G-SHOCK URBAN UTILITY ซีรีส์ใหม่ พร้อมส่วนลดลูกค้าทรู ----------------------------------------

รีวิว Mechanical keyboard ตัวแรกในชีวิต (AKKO 3098B 9009 Retro)
อ่าน

รีวิว Mechanical keyboard ตัวแรกในชีวิต (AKKO 3098B 9009 Retro)

เริ่มจากความอยากได้อยากมีของตัวเอง มองหาคีย์บอร์ดที่จะเอามาใช้กับน้อง Macbook ซึ่งแป้นพิมพ์น้องมันพิมพ์ไม่มันส์มือเอาซะเลย แล้วเราดันมาถนัดใช้ Numpadอีก พอใช้งาน Excel ยิ่งรู้สึกว่าหาใหม่เถอะ โดยเงื่อนไขการหานี้จะต้องขอให้น้องมี Numpadขอให้น้องมีBluetooth เพราะไม่อยากเสียเงินซื้อhubมาต่อพ่วงขอให้น้องมีภาษาไทย อิชั้นพิมพ์สัมผัสไม่เป็นค่ะ จำไม่ได้ว่าอะไรมันอยู่ตรงไหนรองรับระบบของ MAC OSขอเป็นสีออกขาวๆ ครีมๆเรื่องมากใช่ย่อย ไปหาดูมาเป็นอาทิตย์จนปวดหัวเจ้าค่ะ มีอันนั้นไม่มีอันนี้ ขัดใจค่ะมันขัดใจ จนต้องมาลองดูMachanical keyboardอย่างจริงๆจังๆ เพราะส่วนตัวเห็นของสามีแล้วชอบ มีไฟๆด้วย เสียงเวลาพิมพ์มันก็มันส์มาก น่าจะพิมพ์สนุก ก่อนหน้านี้ปัดตกเพราะกลัวมันเสียงดังเวลาลูกหลับ แต่ใจมันอยากได้อ่ะเนอะ รอใช้ตอนลูกยังไม่หลับละกัน ฮ่าๆMachanical keyboard (อธิบายแบบบ้านๆ) ก็คือ คีย์บอร์ดที่ต่างจากแบบที่เราซื้อมาไม่กี่ร้อยที่มาใช้พิมพ์งานทั่วไป คีย์บอร์ดทั่วไปถ้าเกิดมันเสียตัวใดตัวนึง มันไม่สามารถเปลี่ยนได้ ซื้อใหม่อย่างเดียว แต่เจ้านี่ทำได้ฮะเราสามารถถอดเปลี่ยนสวิตซ์ที่อยู่ใต้คีย์แคปได้ ซึ่งมีให้เลือกมากมายก่ายกอง หลายแบบหลายค่ายมาก แต่ละแบบก็จะให้ความเด้งสู้มือ และเสียงกดที่แตกต่างกันออกไปต่อมาด้วยคีย์แคป(ตัวปุ่มกดที่มีตัวหนังสืออยู่) น้องมีหลายสี หลายแบบ หลายลาย จะเอาแบบเท่ แบบน่ารักมีให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว ถ้าศึกษาหาดูต่อน้องมีประเภทใหญ่ที่บอกชนิดของพลาสติกที่ใช้ (ABS , PBT)  แล้วยังมีหมวดย่อยการเรียกชื่อเพื่อบ่งบอกถึงความสูงต่ำของตัวคีย์แคป (XDA , Cherry , OEM , JDA , OSA , ASA) อีกต่างหากขนาดคีย์บอดมีหลายขนาด และก็ไม่ได้มีปุ่มกดครบทุกตัว ยิ่งขนาดเล็กยิ่งมีปุ่มกดน้อยลง บางยี่ห้อทำขนาดให้เล็กกว่าแบบFull size และมีNumpad ก็จริง แต่ปุ่มกดจะติดกัน อาจจะพิมพ์ผิดๆถูกๆได้ตัวที่ซื้อมาคือ AKKO 3098B 9009 Retroขนาด 382*134*40 มม.น้ำหนัก 1.1 กิโลกรัมสามารถเปลี่ยนสวิตซ์เองได้(Hotswap) สวิตซ์ที่ได้มาเป็นJelly Pink (กดง่าย นิ่ม เสียงโทนออกแหลมๆ)สามารถเชื่อมต่อได้ 3 ระบบ (Bluetooth / Wireless 2.4Ghz / USB Type-C) รองรับ Bluetooth 3 devices (E R T) wireless 1 device (Y) สายUSB (U)ไฟ RGB (20โหมด และสามารถปรับทิศทาง ความสว่าง และความเร็วของไฟได้อีกด้วย)ความจุแบตเตอรี่ 3000 mAhคีย์แคป PBT Doubleshot ASA profile (สูงเมื่อเทียบกับชนิดอื่น ประมาณ10-11มม. เกือบทุกแถว)รองรับ N-key rollover (เมื่อเรากด "ปุ่มบนคีย์บอร์ด" จำนวนหลายปุ่มในเวลาเดียวกันแล้ว ข้อมูลที่ถูกส่งออกไปนั้น คอมพิวเตอร์จะได้รับข้อมูลอย่างถูกต้อง)มีsoftware สำหรับตั้งโหมดไฟ Akko Macro V1.0รองรับทั้งระบบ Windows และ MAC OS (สลับสวิตซ์ด้านหลัง)MAC OS ใช้ฟังก์ชั่นของ F1-F12 และปุ่ม command ได้ประเทศจีนของแถมภายในกล่องคีย์แคปเสริม (สีเขียว 20 ปุ่ม และสีชมพู 20 ปุ่ม) 40 ปุ่มสายUSB Type-Cคู่มือการใช้งาน (ภาษาจีน/ภาษาอังกฤษ)ที่ดึงคีย์แคปพลาสติกUSB 2.4Gzเราซื้อผ่านร้านตัวแทนใน Shopee ราคา 3,490 บาท + เลเซอร์ภาษาไทย(ไม่มีหัว)เพิ่ม 399 บาทสรุปสี : ตัวบอร์ดจะออกเทาอ่อนหม่นๆ ไม่ได้ขาวจั๊ว สีคีย์แคปก็จะมีสีเทาอ่อน สีเทา สีเขียวหม่น สีชมพูหม่นขนาด น้ำหนัก : ไม่เล็ก แต่ก็ไม่ได้ใหญ่เทอะทะ หนา มีน้ำหนักผิวสัมผัส : สากมือเล็กน้อยเวลากด : เด้งสู้มือหน่อยๆ กดง่าย นิ่มแต่ไม่สุด (เคยลองกดของสามีที่เอาไปลูปมานิ่มกว่า ฮ่าๆ)เสียง : เสียงดังประมาณนึง ถ้าพิมพ์ตอนลูกหลับตื่นแน่ๆการเชื่อมต่อ : ตั้งแต่ใช้มาผ่านบลูทูธอย่างเดียว ต่อง่าย เวลาพิมพ์ทั่วไป ไม่หน่วงไฟ RGB : มีโหมดไฟให้เลือกหลายแบบ เราเลือกแบบกดตัวไหนไฟสว่างวาบตรงนั้น เวลาพิมพ์เร็วๆให้มันสว่างแข่งกันมันสนุกดีMechanical keyborad มีหลายอย่างให้ศึกษา ราคาก็ใช่เล่น ก่อนซื้อควรหาข้อมูลเยอะๆน้า  จะได้จบที่ตัวเดียว แล้วไปเสียเงินซื้อสวิตซ์กับคีย์แคปแทน ก๊ากๆภาพทั้งหมดโดย Chocobiอ้างอิงข้อมูล: คู่มือการใช้งาน AKKO 3098Bเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน  App TrueID โหลดเลย ฟรี !

รีวิว สาขาวิชา “วิศวกรรมเครื่องกล” หรือ “Mechanical Engineering” เรียนอะไรบ้าง? จบมาทำงานอะไรได้บ้าง?
อ่าน

รีวิว สาขาวิชา “วิศวกรรมเครื่องกล” หรือ “Mechanical Engineering” เรียนอะไรบ้าง? จบมาทำงานอะไรได้บ้าง?

ภาพหน้าปกจาก: Pixabay / MustangJoeรีวิว สาขาวิชา “วิศวกรรมเครื่องกล” หรือ “Mechanical Engineering” เรียนอะไรบ้าง? จบมาทำงานอะไรได้บ้าง?สวัสดีครับ น้องๆ ทุกๆ ท่าน ที่กำลังจะเตรียมตัวเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ทั้งหลาย หลายๆ คน ตอนนี้คงกำลังจะตัดสินใจใช่ไหมครับว่า จะเลือกเรียนต่อ ในสาขาวิชาอะไรดี และหนึ่งในสาขาวิชาที่ นิยมมากๆ ในบ้านเรานั้นก็คือ สาขาวิศวกรรมศาสตร์ ภาพจาก: Pixabay / RAEng_Publicationsสาขาวิศวกรรมศาสตร์ ก็จะมีอยู่หลากหลาย สาขาวิชา เช่น ไฟฟ้า, โยธา, อุตสาหการ, สิ่งแวดล้อม และ อื่นๆ มากมาย แต่ที่ผมจะมาพูดถึงในวันนี้ นั้นก็คือ “วิศวกรรมเครื่องกล” หรือ “Mechanical Engineering” สาขาวิชา “วิศวกรรมเครื่องกล” หรือ “Mechanical Engineering” เป็นสาขาวิศวกรรมศาสตร์ที่เก่าแก่ สาขาหนึ่งเลยทีเดียว เป็นสาขาวิชาที่มีมานานมาก ตั้งแต่สมัยโบราณเนื่องจากว่า คนสมัยก่อนต้องมีการสร้างเครื่องจักรกล ต่างๆ ในการใช้ชีวิตประจำวัน นั้นเองภาพจาก: Pixabay / RAEng_Publicationsน้องๆ หลายๆ คน คงจะเข้าใจว่า สาขาวิชา “วิศวกรรมเครื่องกล” นั้น คงจะทำการเรียนเกี่ยวกับการสร้างเครื่องจักรกล หรือ หุ่นยนต์ หรือ พวกที่เป็นเครื่องยนต์ต่างๆ ใช่ไหมครับ น้องๆ หลายๆ คน คงคิดว่าถ้าหากเรียนจบสาขาวิชานี้แล้ว คงได้ไปทำงานเกี่ยวกับการสร้างเครื่องจักร ต่างๆ หรือ อุตสาหกรรมยานยนต์ ใช่ไหมครับ ผมจะบอกว่า น้องๆ เข้าใจถูกแล้วครับ แต่อาจจะยังไม่ถูกทั้งหมดนะครับ สำหรับ สาขาวิชา “วิศวกรรมเครื่องกล” นั้น มีมากมาย แบ่งย่อยออกไปได้อีกหลากหลาย ขึ้นอยู่กับความสนใจ ตอนที่เราเลือกเรียนนั้นเองครับก่อนอื่น ผมขออธิบายถึงรายละเอียดของ สาขาวิชา “วิศวกรรมเครื่องกล” แบบสั้นๆ เข้าใจง่ายๆ ให้ทราบก่อนนะครับสาขาวิชา “วิศวกรรมเครื่องกล” เป็นสาขาวิชาที่นำความรู้ทางด้านคณิตศาสตร์ และ ฟิสิกส์ มาประยุกต์ใช้ ในการออกแบบ และวิเคราะห์ ระบบ Mechanics, ระบบ Fluid Mechanics, ระบบ Thermodynamics, ระบบ Dynamics, ระบบ kinetics และ ระบบ Energy เพื่อทำการปรับปรุงพัฒนา ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ภายใต้เงื่อนไขต้องใช้งบประมาณที่น้อยที่สุด และที่สำคัญคือต้องปลอดภัย นั้นเอง ครับผม ภาพจาก: Pixabay / RAEng_Publicationsความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ผมคิดว่า สำหรับน้องๆ ที่จะสามารถเรียน สาขาวิชา “วิศวกรรมเครื่องกล” ได้ แบบสบายๆ ไม่ต้องเหนื่อยมาก น้องๆ ต้องมีพื้นฐานทางด้านคำนวณมากพอสมควร เช่น คณิตศาสตร์ หรือ ฟิสิกส์ เป็นต้น สำหรับมหาวิทยาลัยที่ทำการเปิดการเรียนการสอนใน สาขาวิชา “วิศวกรรมเครื่องกล” นั้น ก็มีมากมาย หลายแห่ง ทั้งมหาวิทยาลัยของรัฐ และ เอกชน น้องๆ สามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดของหลักสูตรการเรียนการสอน ของแต่ละแห่งได้เลยนะครับ ตามเว็บไซต์ ของแต่ละสถาบันได้เลยสาขาอาชีพที่ สาขาวิชา “วิศวกรรมเครื่องกล” สามารถเข้าไปทำงานได้นั้น ก็สามารถทำได้ในเกือบทุก สายงานเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น โรงงานอุตสาหกรรม, โรงไฟฟ้า, โรงกลั่นน้ำมัน, โรงแรม, โรงพยาบาล, การประปา, โรงงานพลังงาน และ อื่นๆ อีกมากมาย หรือถ้าหากใครต้องการที่จะไปประกอบธุรกิจส่วนตัว ก็สามารถทำได้ อาจจะไปเปิดรับติดตั้งระบบแอร์, เปิดอู่ซ่อมรถยนต์, รับติดตั้งระบบ หรือ อื่นๆ เป็นต้นภาพจาก: Pixabay / RAEng_Publicationsสำหรับเงินเดือน เริ่มต้นของ สาขาวิชา “วิศวกรรมเครื่องกล” ของน้องๆ ที่เรียนจบใหม่ๆ ที่ยังไม่มีประสบการณ์เลย เงินเดือนจะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 22,000 – 28,000 บาท เลยทีเดียว ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคนด้วยนะครับในความคิดเห็นของผมเอง สาขาวิชา “วิศวกรรมเครื่องกล” เป็นหนึ่งในสาขาวิชาทางสาย วิศวกรรมศาสตร์ ที่หางานได้ง่าย สาขาหนึ่งเลยทีเดียว และยังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานอยู่เสมอ ยังไง ถ้าหากน้องๆ สนใจ ก็ถือว่าเป็นสาขาที่ดีเลยทีเดียว ตั้งใจมุ่งมั่น สอบให้ได้กันทุกๆ คน นะครับผม ขอบคุณมากๆ ครับภาพหน้าปกจาก: Pixabay / MustangJoeภาพจาก: Pixabay / RAEng_Publicationsภาพจาก: Pixabay / RAEng_Publicationsภาพจาก: Pixabay / RAEng_Publicationsภาพจาก: Pixabay / RAEng_Publications เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

พาไปส่องงานเปิดตัว 137 Degrees x ButterBear
อ่าน

พาไปส่องงานเปิดตัว 137 Degrees x ButterBear

สวัสดีค่ะหลายวันก่อนเราได้มีโอกาสไปร่วมงานเปิดตัวสินค้า 137 Degrees ที่พาราก้อน เป็นงานเปิดตัวพรีเซนเตอร์คนสวยคนใหม่ นั่นก็คือน้องหมีเนย Butter Bear นั่นเองจ้า เรียกว่าเลิศหรู แถมมีทั้งความน่ารักและก็ยังได้รู้จักสินค้าแบรนด์ใหม่ๆของทางบ้านเราด้วย นั่นก็ แบรนด์ 137 Degrees เหมาะสำหรับใครที่ไม่ชอบดื่มนมวัวเพราะว่า นมของทางแบรนด์ทำจากถั่วชนิดต่างๆค่ะ โดยงานนี้เป็นการรวมตัวของผู้โชคดีที่ทางแบรนด์ได้ประกาศกิจกรรมให้ร่วมสนุกไปก่อนหน้านี้ค่ะ โดยงานนี้มีชื่อเต็มว่า Meet Milk: จิบนมฮีลใจกับน้องเนย By 137 Degrees ว้าว แค่ภาพเปิดตัวเชิญชวนไปงานก็น่ารักแล้วค่ะ นมเพื่อสุขภาพน้องหมีเนยก็เลยต้องออกกำลังกายสักหน่อย อิอิ   37 Degrees x ButterBear วันที่ไปร่วมงานจะบอกว่างานจัดมาในรูปแบบ Canival เปิดตัวได้หรูหราพร้อมกับความน่ารักของน้องหมีเนยที่มีลวดลายรุ่นพิเศษออกมาให้พวกเราได้สะสมกันหลายรุ่นเลยค่ะ และแต่ละรุ่นก็มีน้องหมีเนยใส่ชุดน่ารักๆแต่ละแบบอยู่ข้างแต่ละรสชาติค่ะ ซึ่งแต่ละรสชาติก็จะมีน้องหมีเนยก็จะทำจากถั่วหลายๆอย่างค่ะ  บรรยากาศภายในงาน น่ารักมากๆเลยค่ะ เพราะว่าเขาได้ทำการตั้งสแตนดี้ของน้องเนยควบคู่ไปกับกล่องนมแต่ละรุ่นขนาดใหญ่เอาไว้ให้แฟนคลับได้ถ่ายรูปเก็บภาพกันอย่างสนุกสนานก่อนน้องจะมาค่ะ และนอกจากนั้นแล้วงานด้านในก็ยังมีกิจกรรมให้ผู้โชคดีได้ร่วมกิจกรรมกันอีก รุ่นพิเศษ Butter Bear Limited edition จะมีให้พวกเราสะสมถึง 5 ลาย 5 รส เลยทีเดียว !! Macadamia milk นมแมคาเดเมีย ,Almond Milk อัลมอนด์ , Walnut Milk นมวอลนัท , Pistachio Milk นมพิสตาชีโอ , Belgian Chocolate รสช็อคโกแลตเบลเยียม และในงานมีให้ชิมด้วยนะคะ หลังจากน้องเนยมาถึงก็มีวีดีโอเปิดตัวพร้อมกับเพลงกึ่งมิวสิคเคิล สุดพิเศษ ที่น้องเนยและทีมงานมาพิเศษเพื่องานนี้โดยเฉพาะ และมีวลีเด็ดที่ทำให้ทุกคนขำพร้อมกันก็คือ " คนจะผอมเขาไม่ทานมื้อดึกกันหรอกค่ะมัม!! "   หลังจากที่ได้ชิมเราจะบอกทุกคนว่าถ้าใครชอบนมที่มีรสชาติมันหน่อย บอกเลยว่าแบรนด์นี้จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากนมวัวทั่วไปค่ะ  หวังว่าบทความที่เรานำมาฝากจะทำให้ทุกคนรู้จักแบรนด์นี้และก็รุ่นพิเศษของน้องหมีเนยรุ่นนี้มากขึ้นค่ะ ^^ ขอบอกหน่อยนึงว่าตอนนี้น้องไม่ได้มีขายรุ่นน้องเนยแค่ใน 7-11 อย่างเดียวแล้วนะคะ เพราะว่าเราเริ่มเห็นแบรนด์เพิ่มรุ่นของน้องเนยที่ห้าง Tops แล้วค่ะ ใครที่กำลังตามหาก็ลองไปดูกันได้เลยคิดว่าหลังจากนี้น่าจะหาลายน้องได้ง่ายขึ้นค่ะ    ข้อมูล : Mallibell ภาพประกอบ : 1 Mallibell   เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

ประสบการณ์เรียน Pre-degree ม.รามคำแหง ครั้งแรกตลอด 1 เทอม
อ่าน

ประสบการณ์เรียน Pre-degree ม.รามคำแหง ครั้งแรกตลอด 1 เทอม

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ห่างหายกันไป 3 เดือนกว่าเลยเลยที่ผมไม่ได้เขียนบทความ ต้องขอเกริ่นสาเหตุที่ไม่ได้เขียนบทความเนื่องจากติดงานหลายอย่าง ผมเป็นนักเรียนมัธยมปลายและเรียน Pre-degree ม.รามคำแหงไปด้วย และช่วงก่อนหน้าที่ผ่านมาเป็นช่วงสอบของโรงเรียนตามด้วยของมหาวิทยาลัยรามคำแหงผมจึงไปเตรียมตัวสอบ และได้ผ่านช่วงเวลาสอบมาแล้ว ผมจึงอยากจะเอาประสบการณ์การเรียน เรียนของตัวเองในช่วง 1 เทอมที่ผ่านมาแบ่งบันให้เพื่อน ๆ ให้ได้ทราบต้องขออธิบายกันก่อนนะครับว่า Pre-degree คืออะไรสำหรับเพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่านแล้วอ่านไม่ทราบ แต่ผมเดาว่าคนส่วนใหญ่ที่เข้ามาอ่านบทความนี้น่าจะเป็นนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหงเช่นเดียวกันกับผม แต่จะขอให้ข้อมูลไว้ เผื่อมีรุ่นถัดมาหาข้อมูลสนใจเรียน Pre-degree เหมือนกันกับผมผมจะสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ นะครับPre-degree คือการเรียนปริญาตรีล่วงหน้า เหมาะสำหรับคนที่จบ ม.3 แล้ว โดยนักศึกษา Pre-degree สามารถเรียนควบคู่ไปกับมัธยมปลายได้ เมื่อสมัครเป็นนักศึกษา Pre-degree ก็ลงทะเบียนเข้าเรียนออนไลน์หรือในมหาวิทยาลัยตามแต่สะดวก และก็สอบปลายภาคครับ ข้อดีคือเหมาะสำหรับคนที่รู็ตัวเองเร็วว่าชอบอะไรอยากเรียนอะไร และผู้ที่ต้องการจบปริญญาตรีเร็วกว่าปกติครับสำหรับผมนั้นสมัครเป็น Pre-degree (ส่วนกลาง) รหัส 66 และเรียนคณะมนุษย์ศาสตร์ เพราะผมมีความสนใจในภาษาญี่ปุ่น จึงเลือกเรียนวิชาเอกเอกญี่ปุ่น และวิชาโทภาษาไทยวิทยาครับ อันที่จริงอยากให้มีคณะมนุษย์เปิดสอนในส่วนภูมิภาคด้วยแต่ว่าก็ไม่มีคณะนี้เปิด จึงทำให้ผมตัดสินใจเรียนส่วนกลางตามความชอบของตนเอง ข้อดีของมหาวิทยลัยรามคำแหงที่ผมชอบคือเราสามารถจัดการบริหารเวลาเรียนเองได้เพราะเราแค่ลงเรียนในวิชาที่โครงสร้างหลักศุตรกำหนดโดยลงได้สูงสุด 22 หน่วยกิตต่อเทอม และลงได้ 3ภาคเรียน คือ 1และ 2 และภาคฤดูร้อนแต่ภาคฤดูร้อนจะลงได้น้อยกว่า ลงเสร็จสอบผ่านก็ยื่นขอจบการศึกษาได้เร็ว อย่างคณะผมใช้ 139 หน่วยกิต จบเร็วที่สุดได้ก็แค่ 3 ปี  อีกอย่างคือไม่ว่าอายุเท่าไหร่ก็สามารถสมัครเป็นนักศึกษาเข้าเรียนได้ ให้อิสระกับการศึกษาและการบริหารจัดการตัวเอง ผมว่าเป็นมหาวิทยาลัียที่เหมาะกับผมครับและอีกอย่างคือการเปิดให้นักเรียน ม.ปลายเรียนล่วงหน้าคือการ Pre-degree เพื่อน ๆ คนไหนชอบสไตล์การเรียนแบบนี้ผมก็ขอชวนมาสมัครเรียนกันได้เลยนะครับ จุดเริ่มต้นการสนใจเรียน เกิดขึ้นในช่วงท้าย ม.3 ของผมหลังจากที่ผมได้เลือกเรียนต่อ ม.ปลาย แผนการณ์เรียนวิทยาศาสตร์ -คณิตศาสตร์ (เพิ่มเติมภาษาญี่ปุ่น) จึงอยากลองเรียนภาษาญ๊่ปุ่นในระดับที่สูงขึ้นไปอีก หากเพื่อน ๆ จะตัดสินใจเรียนอะไรก็ลองหาสิ่งที่เหมาะกับเราและตัดสิ้นใจเลือกนะครับในส่วนของการเรียนผมยอมรับเลยว่าเหนื่อยมาก ๆ เพราะนอกจากจะต้องเรียนในโรงเรียนแล้วนักศึกษา  Pre-degree อ่านหนังสือเตรียมสอบด้วย โดยผมใช้อ่านเอกสารที่สอนและทำสรุปเป็นไฟล์ไว้อ่าน แล้วมันก็จะมีบางวิชาที่อาจารย์ไม่ได้ทำเอกสารประกอบการสอนผมก็ใช้วิธีดูบรรยายย้องหลัง ซึ่งสามารถรับชมผ่านเว็บไซต์ได้เป็นอะไรที่สะดวกมาก ๆ แล้วก็ทำสรุปเนื้อหาครับ เทอม 1 /66 ตอนนี้เกรดออกมาก็เป็นประมาณนี้เลยบางเกรดก็พอจะรู้ก่อนผลออกเพราะ จากการที่ไปสอบ e-testing ก็พอจะรู้เกรดแล้วบางวิชาไว้ถ้ามีโอกาสผมจะเอาเรื่องสอบ e-testing มาเขียนให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันครับแหม ผมเองก็ได้มาครบเลย ตั้งแต่ A ถึง F เลยต้องรับกันแบบอบอุ่นสำหรับการเป็นนักศึกษาใหม่เทอมแรกของผม แต่ก็ผ่านไปสำหรับประสบการณ์การเรียน มาถึงช่วงสอบผมต้องเดินทางจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพ ก็ด้วยความที่เราไม่เคยไปกรุงเทพ ก็ครั้งนี้และก็เป็นโอกาสครั้งแรกที่ได้ไป ผมก็ฝึกเดินทางด้วยตัวเองในกรุงเทพอ่ะน่ะแรก ๆ ก็มีไปทันบ้าง หลัง  ๆ ก่อนเริ่มเรียนแล้ว ผมชอบแวะไปหอสมุดกลางมหาวิทยาลัยมาก ๆ มีหนังสือให้อ่านเยอะเลยบรรยากาศเงียบสงบ และมีมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกด้านการเรียนเยอะเลย การเรียน Pre-degree ม.รามคำแหง เทอมแรกของผมก็สนุกมากแต่เหนื่อยโดยรวมผมถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ช่วยให้ผมได้พัฒนยาตนเองได้เรียนรู็อะไรหลายอย่างและได้ความรู้ใหม่ ๆ ในชีวิตนอกจากการเรียนการสอนแล้วผมก็ได้ประสบการณ์ต่าง ๆ มากครับ สุดท้ายนี้ขอขอคุณที่อ่านกันมาจนจบนะครับ ใกล้ปีใหม่แล้ว สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับภาพปกออกแบบด้วย canva ภาพประกอบปกบทความ  จาก canva ของ aopsan ภาพที่ 1 ขอบคุณรูปภาพจาก lil_foot_ จาก Pixabayภาพที่ 2 ขอบคุณรูปภาพจาก Sasin Tipchai จาก Pixabayภาพที่ 3 โดยผู้เขียน  ขอบคุณรูปภาพจาก Ramkhamhaeng University. RU Course on Demand (M-Learning) ภาพที่ 4 โดยผู้เขียน ขอบคุณรูปภาพจาก e-Services Ruติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก มหาวิทยาลัยรามคำแหง ใช้เป็นภาพประกอบบทความเท่านั้นเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

▶️คลิป : วิธี​ฝึก​ 90​ degree​ hold​
อ่าน

▶️คลิป : วิธี​ฝึก​ 90​ degree​ hold​

วิธี​ฝึก​ 90​ degree​ hold​ ท่าที่บอดี้เวทสายโยคะ, Calisthenics, street​workout, Gymnastic​ ไม่ควรพลาด​กดไลค์​กด​แ​ช​ร์เพื่อ​เ​ป็นก​ำ​ลัง​ใจ​ และ​อย่า​ลืม​กด​ Subscribe​ ด้ว​ยนะครับ ร่วม​เป็น​ผู้​สนับสนุน​ช่อง​ https://www.youtube.com/channel/UCxFgxC1Z-jUBNTDPc5O9J-g/joinร่วม​เป็น​ผู้​สนับสนุน​ช่อง​ เริ่มต้น​ 35​บาท​ต่อ​เดือน​ เพื่อ​เป็น​ก​ำ​ลัง​ใจ​ในให้​เรา​กันได้​ครับ​🙏🏻🙏🏻 โปรแกรม​สำหรับ​อื่นๆ​ดูที่👇👇👇YouTube​ https://youtube.com/c/UCANTHENICZFanpage​:https://www.facebook.com/Ucanthenicz/ ติดตาม​เพิ่มเติม​ได้​ที่นี่​👇👇👇👇IG​:https://www.instagram.com/coach_cheir TrueID​:https://creators.trueid.net/@94757 Tiktok​ :https://vt.tiktok.com/ZSJBtk2Qk/ Snack​Video​ :http://sck.io/Ly8wdIdy Line​ID​ : coach_cheir​ ออกกำลังกายอยู่บ้านได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !

aot grappling hook mechanic 2 เกมเหวี่ยงตะขอสุดมันส์บน itch
อ่าน

aot grappling hook mechanic 2 เกมเหวี่ยงตะขอสุดมันส์บน itch

คือเมื่อวันก่อนผู้เขียนไปเจอเกมต้นแบบบน itch.io ที่ชื่อว่า aot grappling hook mechanic 2 ของ Luiz Miguel 3D ซึ่งเป็นเกมที่ทำขึ้นด้วย Unity และเล่นได้เลยบนเว็บ ไม่ต้องโหลดหรือติดตั้งอะไรให้ยุ่งยาก ตอนแรกก็คิดว่าเป็นแค่โปรเจกต์เล็ก ๆ แต่พอเข้าไปลองเล่นจริง ๆ กลายเป็นว่ามันสนุกกว่าที่คิดเยอะเลย ระบบควบคุมที่ให้ฟีลเหมือนในอนิเมะ เกมนี้เน้นไปที่ระบบการเคลื่อนไหวด้วย grappling hook หรือที่แฟน Attack on Titan รู้จักกันดีว่าเป็น “อุปกรณ์เคลื่อนที่สามมิติ” Q/E  ยิงตะขอซ้ายและขวา Space กระโดด WASD/ลูกศร เคลื่อนที่ Shift ใช้แก๊สพุ่งตัว Tab + Mouse ปรับระยะเล็งสองระดับ ตอนที่ลองกด Q/E ยิงตะขอแล้วเหวี่ยงตัวไปมา ห้ความรู้สึกเหมือนกำลังสวิงอยู่กลางเมืองจริง ๆ ยิ่งพอใช้แก๊สเร่งความเร็วด้วย Shift แล้วพุ่งทะยานไปข้างหน้า ความรู้สึกโคตรใกล้เคียงกับฉากในอนิเมะเลย ความรู้สึกตอนเหวี่ยงตัวกลางอากาศ สิ่งที่ทำให้ผู้เขียนติดใจคือความ ลื่นไหล ของการเคลื่อนไหว ถึงแม้เกมยังเป็น Prototype แต่ฟิสิกส์ทำให้การเหวี่ยงตัวดูสมจริงมาก ๆ ตอนที่ยิงตะขอซ้าย-ขวาสลับกันเร็ว ๆ รู้สึกเหมือนกำลัง “สวิง” ไปตามเส้นทางที่ตัวเองสร้างขึ้น การกระโดดแล้วกดแก๊สต่อทันที โมเมนตัมพุ่งแรงมาก ราวกับกำลังโฉบลงไปหายักษ์ การเล็งสองระยะช่วยให้ควบคุมได้แม่นขึ้น ไม่ว่าจะอยากเหวี่ยงตัวสูง ๆ หรือพุ่งไปใกล้ ๆ พูดง่าย ๆ คือแค่การเคลื่อนไหวมันก็สนุกจนเพลินไปเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องมีระบบต่อสู้ด้วยซ้ำ จุดที่ยังไม่สมบูรณ์ แน่นอนว่าเกมยังเป็น Prototype เพราะฉะนั้นหลายอย่างยังไม่ครบ เช่น ไม่มีระบบต่อสู้ ตอนนี้ยังแค่เหวี่ยงตัวไปมา ไม่มีการโจมตีหรือสู้กับไททัน กราฟิกเรียบง่าย เมืองยังดูโล่ง ๆ ไม่มีรายละเอียดมากนัก การควบคุมบางครั้งแข็ง ๆ ต้องใช้เวลาปรับตัวกว่าจะเล่นได้คล่อง แต่ถึงอย่างนั้น ผู้เขียนกลับรู้สึกว่าเป็น “สนามเด็กเล่น” ที่ดีมากสำหรับลองท่าต่าง ๆ เหมือนเป็นพื้นที่ให้เราซ้อมการเคลื่อนไหวแบบในอนิเมะ โมเมนต์ฮา ๆ ตอนเล่น มีอยู่ครั้งหนึ่งผู้เขียนลองยิงตะขอไปที่ตึก แต่ดันเล็งพลาดไปโดนพื้นแทน ผลคือร่างพุ่งไปข้างหน้าแล้วกระแทกพื้นแบบไม่เท่เลย เพื่อนที่นั่งดูอยู่ขำกันใหญ่ บอกว่า “นี่มันนักรบกองกำลังสำรวจเวอร์ชั่นฝึกหัดชัด ๆ” อีกทีหนึ่งผู้เขียนลองกดแก๊สพุ่งแรง ๆ แล้วเหวี่ยงตัวสูงเกินไป สุดท้ายหลุดออกนอกแผนที่ไปเลย กลายเป็นว่าต้องรีเฟรชเกมใหม่ ฮาไปอีกแบบ จุดแข็งที่ทำให้เกมนี้น่าสนใจ ระบบ grappling hook ที่เล่นแล้วติดใจ ฟิสิกส์การเคลื่อนไหวที่ทำให้รู้สึกมีอิสระ เล่นผ่านเว็บได้ง่าย ไม่ต้องติดตั้ง สิ่งที่ควรพัฒนา เพิ่มระบบต่อสู้กับไททันหรือศัตรู ทำแผนที่ให้ใหญ่ขึ้นและมีรายละเอียดมากขึ้น ปรับการควบคุมให้ลื่นไหลกว่านี้ สรุปความรู้สึก สำหรับผู้เขียน เกมนี้ถึงจะยังเป็น Prototype แต่ก็ทำให้เห็นศักยภาพของระบบการเคลื่อนไหวที่สามารถต่อยอดไปสู่เกมเต็มรูปแบบได้ ถ้าในอนาคตผู้พัฒนาสามารถเพิ่มระบบต่อสู้ แผนที่ที่หลากหลาย และกราฟิกที่สวยขึ้น จะกลายเป็นเกมที่แฟน Attack on Titan ต้องลองแน่นอน ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน   เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

ลุยเดี่ยวกับสาวผมบลอนด์สุดสวยกับเกม Tekken's Nina Williams in Death by Degrees
อ่าน

ลุยเดี่ยวกับสาวผมบลอนด์สุดสวยกับเกม Tekken's Nina Williams in Death by Degrees

ใครจะไปคิดว่าตัวละครสาวสุดเซ็กซี่อย่าง Nina Williams จากเกมต่อสู้ชื่อดังอย่าง Tekken จะมีเกมภาคแยกของตัวเองกับเขาด้วย! กับเกม Death by Degrees ที่วางจำหน่ายบน PlayStation 2 เมื่อปี 2005 เกมนี้พาเราออกจากสังเวียนหมัดมวย ไปลุยเดี่ยวในภารกิจสายลับสุดระห่ำแบบเต็มตัว บอกเลยว่าตอนนั้นตื่นเต้นมาก เพราะเป็นแฟนตัวยงของ Nina อยู่แล้ว แถมตัวเกมยังดูมีกลิ่นอายแบบ Resident Evil ผสม Metal Gear Solid ที่ชอบอีกต่างหาก พอได้ลองเล่นจริงๆ แล้วจะเป็นยังไง มาติดตามกันเลย!   เนื้อเรื่อง ใน Death by Degrees เราจะได้รับบทเป็น Nina Williams สายลับสาวจากหน่วยงานลับที่ถูกส่งไปแทรกซึมเข้าไปในเรือสำราญสุดหรูที่ชื่อว่า Amphitrite เพื่อสืบหาอาวุธชีวภาพที่ชื่อว่า "Salacia" เนื้อเรื่องไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย แต่ก็ถือว่าพอใช้ได้ในยุคนั้น มีการหักมุมนิดๆ หน่อยๆ พอให้เซอร์ไพรส์บ้าง   แต่ที่ชอบคือการเล่าเรื่องผ่านคัตซีนที่ทำออกมาได้สวยงามในยุคนั้น CG อาจจะดูแข็งๆ ไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ขัดหูขัดตาอะไรมากนัก เสียดายที่เนื้อเรื่องไม่ได้เชื่อมโยงกับภาคหลักของ Tekken เท่าไหร่ ทำให้แฟนๆ ที่หวังจะเห็น Easter Egg หรือ Lore ต่างๆ อาจจะผิดหวังเล็กน้อย     เกมเพลย์ มาถึงหัวใจหลักของเกมกันบ้าง ระบบการเล่นของ Death by Degrees เป็นแนว Action-Adventure ที่ผสมผสานการต่อสู้แบบประชิดตัวเข้ากับการลอบเร้นและไขปริศนาเล็กๆ น้อยๆ   ในส่วนของการต่อสู้ ต้องบอกว่าทำออกมาได้ค่อนข้างแปลกใหม่ในยุคนั้น ด้วยระบบ "Critical Strike" ที่ให้เราเล็งโจมตีจุดตายของศัตรูแบบเจาะจง ไม่ว่าจะเป็นการเตะผ่าหมาก จิ้มตา หรือกระทุ้งคอ ซึ่งแต่ละจุดจะมีท่าโจมตีและเอฟเฟกต์ที่แตกต่างกันออกไป ช่วงแรกๆ ที่เล่นก็รู้สึกสนุกดี ได้ลองกดท่าต่างๆ แต่พอเล่นไปนานๆ ก็เริ่มรู้สึกว่าระบบนี้มันค่อนข้างยุ่งยากและไม่ค่อยลื่นไหลเท่าไหร่ โดยเฉพาะเวลาเจอศัตรูรุม หลายครั้งที่กะจังหวะกดท่าไม่ถูก ทำให้โดนรุมยำเละ แถมมุมกล้องในเกมก็ค่อนข้างมีปัญหา บ่อยครั้งที่หมุนมุมกล้องไม่ทัน จนมองไม่เห็นศัตรู   ส่วนระบบลอบเร้นก็ทำออกมาได้กลางๆ ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีมาก มีช่วงที่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ บ้าง แต่ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย ส่วนใหญ่ก็แค่เดินหลบหลังกำแพง หรือคลานผ่านช่องแอร์ ปริศนาในเกมก็ไม่ได้ยาก ส่วนใหญ่เป็นปริศนาง่ายๆ อย่างเช่น การหาของมาไขกุญแจ หรือการกดสวิตช์ตามลำดับ   โดยรวมแล้ว เกมเพลย์ของ Death by Degrees ถือว่าสอบไม่ค่อยผ่านเท่าไหร่ ระบบการต่อสู้ที่ดูน่าสนใจในตอนแรก กลับกลายเป็นจุดอ่อนของเกม แถมมุมกล้องกับระบบลอบเร้นก็ยังทำออกมาได้ไม่ดีพอ     กราฟิก ในยุค PlayStation 2 กราฟิกของ Death by Degrees ถือว่าอยู่ในระดับที่โอเค ตัวละคร ฉาก และเอฟเฟกต์ต่างๆ ทำออกมาได้สวยงามในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะโมเดลของ Nina ที่ดูสวยงามและเซ็กซี่ (แอบมีฉากเซอร์วิสแฟนๆ เล็กๆ น้อยๆ ด้วยนะ) แต่ก็อย่างว่า เกมนี้ก็มีอายุเกือบ 20 ปีแล้ว ถ้าเทียบกับเกมยุคนี้ กราฟิกก็คงดูโบราณไปหน่อย   เสียง เสียงประกอบและเพลงประกอบในเกมทำออกมาได้ดี ช่วยเพิ่มอารมณ์ความตื่นเต้นให้กับเกมได้เป็นอย่างดี เสียงพากย์ของตัวละครก็ถือว่าโอเค แต่แอบขัดใจเสียงพากย์ภาษาอังกฤษของ Nina นิดหน่อย รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเข้ากับบุคลิกของเธอเท่าไหร่     สรุป Tekken's Nina Williams in: Death by Degrees เป็นเกมที่น่าผิดหวังสำหรับผม แม้จะมีไอเดียที่ดี แต่ระบบการเล่นที่ยุ่งยาก มุมกล้องที่แย่ และเนื้อเรื่องที่ไม่ค่อยน่าสนใจ ทำให้เกมนี้ไม่สนุกอย่างที่คิด ถ้าคุณเป็นแฟน Tekken และอยากรู้จัก Nina มากขึ้น ก็อาจจะลองเล่นดูได้ แต่ถ้าคุณหวังว่าจะได้เล่นเกมแอ็กชันสุดมันส์ ผมแนะนำให้มองหาเกมอื่นดีกว่า   คะแนน 6/10   ข้อดี กราฟิกสวยงามในยุคนั้น เสียงประกอบและเพลงประกอบทำได้ดี ฉากแอ็กชันบางฉากทำออกมาได้น่าตื่นเต้น   ข้อเสีย ระบบการต่อสู้ยุ่งยากและไม่ลื่นไหล มุมกล้องมีปัญหา เนื้อเรื่องไม่ค่อยน่าสนใจ ระบบลอบเร้นยังทำได้ไม่ดีพอ   หมายเหตุ: นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ประสบการณ์ในการเล่นเกมของแต่ละคนอาจแตกต่างกันออกไป   เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง   เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

25 Degrees Bangkok สุดยอดความอร่อยที่คนรักเบอร์เกอร์ต้องลอง
อ่าน

25 Degrees Bangkok สุดยอดความอร่อยที่คนรักเบอร์เกอร์ต้องลอง

สวัสดีเบอร์เกอร์เลิฟเวอร์ทุกคนค่า วันนี้เราจะพาทุกคนไปกินเบอร์เกอร์ที่อร่อยที่สุดในกรุงเทพ ฯ เลยก็ว่าได้ร้านนี้มีชื่อว่า 25 DEGREES Bangkok พิกัดไม่ใกล้ไม่ไกลตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ของโรงแรม Pullman Hotel G ย่านสีลม ร้านอยู่ด้านหน้าเลยจ้าสังเกตง่ายมาก ร้านตกแต่งสไตล์อเมริกัน กลิ่นอายชิคาโก้เบา ๆ เหมือนกินเบอร์เกอร์ที่เมืองนอกกันเลยทีเดียว แถมช่วงนี้มีโปรโมชันเพียบ นอกจากที่นี่จะมีเมนูเบอร์เกอร์แล้ว ก็ยังมีเมนูอื่น ๆ อีกเพียบ ทั้งซี่โครงหมูบาร์บีคิว มันฝรั่งทอดหลากหลายสไตล์ ปลาหมึกทอดท่านเล่นแบบฟิน ๆ ไก่ทอดบาร์บีคิว และไฮไลท์เด็ดของที่นี่ต้องยกให้ Milk Shake (160-.) เลยจ้ามีให้เลือกกัน 4 รสชาติVanilla bean ,Double Chocolate, Strawberry และ Chocolate & Banana บอกเลยว่าไม่ควรพลาดอย่างยิ่งตอนนี้มีโปร 1 แถม 1 ทุกวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 11.00 - 15.00 น.ด้วยนะคะทุกคน เมนูเบอร์เกอร์จะมีให้เลือกทั้งหมด 8 เมนูกันเลยเริ่มต้นที่ 330 บาท และถ้าอยากจะเพิ่มอะไรในเบอร์เกอร์ของเราก็มีให้เลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ วันนี้เราเลือกเป็นเบอร์เกอร์ Number One เเละเลือกเปลี่ยนขนมปังเป็นแบบ Gluten-free ในเบอร์เกอร์ก็จะมี Caramalized onion , Crescenza , Prelibato Gorgonzola , Bacon ,Augula , Thousand Island เลือกเพิ่ม Avocado ดูจากวัตถุดิบต่าง ๆ อัดแน่นขนาดนี้ต้องลองให้ได้เลยนะคะ นอกจากเมนูแนะนำทั้งเบอร์เกอร์และ Milk Shake แล้วนะคะ ยังมีเมนูของทานเล่น หรือใครจะทานแบบจริงจังก็ย่อมได้ เราสั่งมาทานเล่น ๆ กัน 2 เมนูเลยค่ะ 5555 เมนูแรกคือ Potato wedges ( 180-. บาท)กับ Topping แบบต่าง ๆ มีให้เลือก 3 Topping คือ Spicy Thai Herb , Mexican Salsa และ Cheesy Chili สำหรับจานที่เราสั่งจะเป็น Topping ด้วย Mexican Salsa นะคะ เป็นTopping ที่ให้ความสดชื่นจากมะเขือเทศ กับอโวคาโด เมนูที่สอง ก็คือเมนู Beer Battered Chicken Wings (6 ชิ้น 180-.บาท) หรือปีกไก่บาร์บีคิวนั่นเองค่า ปีกไก่ทอดกรอบ ๆ ฉ่ำซอสบาร์บีคิวแบบโฮมเมด อร่อยเด็ดมาก ๆ คิดแล้วก็หิวอย่างกินอีกแล้ว ใครที่เป็นสาวกของเบอร์เกอร์แบบต้นตำรับด้วยรางวัลการันตีมากมายเราบอกเลยว่าต้องมา ของเด็ดของอร่อย บรรยากาศดี โปรโมชันเพียบ แถมมีอาหารอื่น ๆ ให้เลือกทานอีกด้วยนอกจากเบอร์เกอร์ ใครที่แวะเวียนผ่านมาแถวสีลม ถือได้ว่าร้านนี้ควรมาเช็คอินความอิ่มอร่อย แล้วจะติดใจแบบ Appro around the world แน่นอนเลยน้า 📍25 Degrees Bangkok FB : 25 Degrees Bangkok. สั่งเดลิเวอรี 🛵 GRAB 🛵 LINEMAN⁣ 🛵 FOODPANDA 🛵 ROBINHOOD ⏰ เวลาเปิด - ปิดทุกวันเวลา7am - 9 pm (ปกติเปิด 24 ชม.) 📱 023524192 | @25degreesbkk (LINE@) 📨 25degreesmanager@randblab.com 🌎 www.randblab.com/25degrees-bkk เรื่องและภาพโดย : Appro around the world #25degreesburger #25degreesBangko #pullmanhotelg #ร้านเบอร์เกอร์อร่อยในกรุงเทพ #ร้านอาหารน่านั่งในกรุงเทพ #เที่ยวกรุงเทพช่วงโควิด #ไก่ทอดบาร์บีคิว

25 Degrees Burger เบอร์เกอร์สไตล์อเมริกันย่านบางรัก Enjoy ได้ 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์
อ่าน

25 Degrees Burger เบอร์เกอร์สไตล์อเมริกันย่านบางรัก Enjoy ได้ 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์

เบอร์เกอร์ อาหารสไตล์อเมริกันที่ดูเรียบง่าย ทานได้อย่างรวดเร็ว และอิ่มได้ในชิ้นเดียว ใครหลายๆ คนนิยามมันว่าเป็นอาหาร Junk Food ก็ตาม แต่ถ้าลองเปลี่ยนมุมมองซะใหม่ และยกระดับเบอร์เกอร์ให้มีระดับในร้านอาหารโรงแรมหรูใจกลางเมือง หนึ่งในร้านนั้น จะต้องมีร้านที่ชื่อว่า “25 Degrees Burger” ร้านอาหารสไตล์อเมริกันกับคอนเซป Enjoy Burger 24/7 เวลาไหนก็เอ็นจอยกับเบอร์เกอร์แสนอร่อยได้บรรยากาศหน้าร้านร้าน 25 Degrees Burger อยู่ที่ชั้น 1 ของโรงแรม Pullman G สีลม การเดินทางสามารถมาด้วยรถโดยสารสาธารณะ หรือจะขับรถยนต์ส่วนตัวมาจอดที่โรงแรมก็ได้เช่นกัน โดยชื่อร้านนั้นมาจากการที่ทางร้านเปิดแอร์เพียงแค่ 25 องศาเซลเซียสแบบเดียวกับที่สาขาแม่ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งถือว่าร้อนในต่างประเทศ แต่ถ้าเป็นในเมืองไทยแค่นี้ก็หนาวแล้ว ภายในร้านจะตกแต่งเป็นสไตล์อเมริกันจ๋า ที่เน้นเป็นกึ่งผับกึ่งนั่งชิว เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย ทั้งสายปาร์ตี้ หรือกลุ่มเพื่อนกินดื่ม ที่ร้านนี้ก็สามารถให้บริการได้ทุกรูปแบบบรรยากาศแบบอเมริกันที่อุณหภูมิ 25 องศาเมนูอาหารร้านนี้จะเน้นไปที่เบอร์เกอร์ตามชื่อร้าน นอกจากนี้ยังมีเมนูซิกเนเจอร์อีกหลายอย่างที่อร่อยและหารสชาติแบบนี้ไม่ได้จากที่อื่นเช่นกัน ส่วนสายดื่มหนักร้านนี้ก็มีแอลกอฮอล์ให้บริการเช่นกันตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดTraditional Caesarเริ่มต้นกันด้วยเมนูเบาๆ อย่าง Traditional Caesar ราคา 380 บาท สั่งแบบไซส์ Full เพื่อเน้นทานผัก ประกอบไปด้วย Romaine Lettuce หรือชื่อไทยคือผักกาดหวาน คลุกเคล้าด้วยชีสพาร์เมซานเรจจาโน โรยด้วย caper ที่นำไปทอดก่อนและโรยลงไป รสชาติจะเน้นไปที่ตัวผักกาดหวานที่มีความจืดนิดๆ ตัดด้วยความเค็มของชีสพาร์เมซาน และcaper ที่เพิ่มกลิ่นฉุนนิดๆ ทำให้จานนี้ทานได้ง่ายขึ้น รวมทั้งได้ความกรุบกรอบจากตัวผักSweet Potato Fried หรือมันหวานทอดต่อกันด้วย Sweet Potato Fried ราคา 120 บาท มันหวานทอดกรอบเสิร์ฟมาในกระป๋องเหล็ก รสชาติออกหวานและได้รสสัมผัสที่กรอบอร่อย ถึงแม้ว่าจะทานเรื่อยๆ จนเริ่มเย็นแล้ว ก็ยังกรอบอยู่ เหมาะกับทานคู่กับเบอร์เกอร์เป็นอย่างยิ่ง จะจิ้มซอสมะเขือเทศก็ได้ แต่ถ้าแนะนำควรทานแบบไม่จิ้มอะไรเลยBuns on Fire เมนูพิเศษประจำเดือนมิถุนายนจานหลักในวันนี้ เป็นเมนูพิเศษประจำเดือนมิถุนายน กับ Buns on Fire ราคา 499 บาท เบอร์เกอร์เบิร์นไฟที่มีส่วนประกอบหลักๆ 2 ส่วน ตัวเบอร์เกอร์นั้นจะมี เนื้อ U.S. Sirloin ที่สับและมาปั้นเป้นก้อน เบคอน เชดด้าชีส พริกไทย และซอสเบอาร์น (Bearnaise Sauce) ซอสข้นที่คล้ายๆฮอลแลนเดส แต่กลิ่นสมุนไพรเด่นกว่า ส่วนซอสที่เบิร์นไฟนั้นจะผสมระหว่างไวน์แดงกับวิสกี้ของ Rittenhouse ซึ่งตอนที่ราดลงไปแล้วจุดไฟจะลุกขึ้นมา รอจนไฟดับแล้วค่อยทาน รสชาติจะมีความแอลกอฮอล์นิดๆ ในตัวซอส เนื้อดีนุ่มอร่อย ส่วนขนมปังมีความ Juicy นิดๆ ทานได้เพลินๆไส้แน่น เลเยอร์ชัดVanilla Milk Shake เมนูในตำนานของร้านนี้ส่วนเครื่องดื่มที่แนะนำว่าต้องสั่งสำหรับร้านนี้ คือตระกูลมิลค์เชค ซึ่งมีให้เลือกประมาณ 4 รสชาติ แต่ที่อร่อยที่สุดยังต้องยกนิ้วให้กับ Vanilla Milk Shake ที่ใช้วานิลลาแท้ๆ มาทำเป็นไอศกรีมก่อนที่จะนำมาปั่นเป็น Milk Shake และอีกรสชาติที่อร่อยไม่แพ้กันกับ Chocolate Banana ที่อันนี้ใช้ไอศกรีมช็อกโกแลตมาปั่นกับกล้วย โดยจะได้รสชาติของช็อกโกแลตนำมาผสมกับความหวานของกล้วยหอมChocolate Banana Milk Shakeส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าร้านนี้สามารถนำเสนอเมนูเบอร์เกอร์ที่ใครหลายๆ คนอาจจะไม่เห็นคุณค่าของมัน กลายเป็นเมนูขึ้นหิ้งที่ควรค่าแก่การลอง และในแต่ละเดือนก็จะมีเมนูเบอร์เกอร์พิเศษที่บางครั้งจะเป็นการ Co กับเชฟชื่อดังท่านอื่นๆ ในไทย ทำให้การมาทานเบอร์เกอร์ร้านนี้ไม่มีความจำเจแน่นอน แต่กระนั้นเมนูซิกเนเจอร์อื่นๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน นะ ทั้ง Milk Shake และ Salad ส่วนการบริการทางร้านก็เน้นไม่แพ้กัน พนักงานจะคอยมาดูเราเรื่อยๆ เผื่อต้องการอะไรเพิ่มเติมโดยที่ไม่ต้องเรียกแต่อย่างใด   สำหรับเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านรีวิวนี้แล้ว หากไปทานมาแล้วก็สามารถมา Comment ที่ด้านล่างรีวิวนี้ได้ หรือหากเจอร้านที่คิดว่าเด็ดกว่าก็มาบอกเล่ากันได้ กดแชร์แบ่งปันความอร่อยให้กับเพื่อนๆ และอย่าลืมกดติดตามผู้เขียนเพื่อไม่ให้พลาดรีวิวร้านอาหารใหม่ๆ และเป็นกำลังใจให้กับทางเพจได้รีวิวอาหารต่อๆ ไป 25 Degrees Burgerพิกัดความอร่อย: Pullman G Hotel สีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพเวลาเปิดปิด: ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงเบอร์โทรศัพท์: 023524192 #ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน#บทความดังกล่าวถูกเรียบเรียงและแต่งขึ้นโดยนักเขียนเองทั้งหมด#Burger #American #PullmanGHotel #Dinner สุกี้ในตำนาน 40 ปีกับร้าน COCA ย่านศาลาแดง*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"* ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565

รีวิวซีรีส์ "กลรักรุ่นพี่" Love Mechanics รับชมผ่านแอป WeTV ด้วยแพ็คเกจสุดคุ้มที่ TrueID
อ่าน

รีวิวซีรีส์ "กลรักรุ่นพี่" Love Mechanics รับชมผ่านแอป WeTV ด้วยแพ็คเกจสุดคุ้มที่ TrueID

เตรียมพบกับซีรีส์ กลรักรุ่นพี่ Love Mechanics จากนิยายขายดีสู่ซีรีส์สุดฮอตที่เรียกได้ว่า ฮอตฮิตจนติดเทรนทวิตเตอร์กันเลยล่ะค่ะ^^ จากเรื่องสั้นใน EN OF LOVE รักวุ่นๆของหนุ่มวิศวะ ตอน Love Mechanics กลรักรุ่นพี่ "ซีรีส์วาย WeTV Original" สู่ ซีรีส์กลรักรุ่นพี่อย่างเต็มรูปแบบ นำแสดงโดย หยิ่น อานันท์ และ วอร์ วนรัตน์ คอซีรีส์วายนี่ไม่ควรพลาดเลยนะคะ เรื่องราวจะสนุกสนานและชวนฟินกันมากขนาดไหนตามไปอ่านเรื่องย่อและรีวิวพร้อม ๆ กันได้เลยค่านักแสดงนำหยิ่น อานันท์ ว่อง รับบทเป็น วี อดีตเดือนมหาวิทยาลัย หนุ่มหล่อรักเดียวใจเดียว จนสุดท้ายก็ผิดหวังเรื่องความรักจากแฟนสาวhttps://www.instagram.com/p/CdQjW5BPCqs/วอร์ วนรัตน์ รัศมีรัตน์ รับบทเป็น มาร์ค นักกีฬาว่ายน้ำ รุ่นน้องคณะวิศวกรรมศาสตร์ แอบรัก รุ่นพี่ในคณะนั่นก็คือ บาร์https://www.instagram.com/p/Cd0y6LlP9g6/เรื่องย่อ : เล่าเรื่องราวความรักของนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์กลุ่มหนึ่ง เมื่อ มาร์ค แอบชอบรุ่นพี่ซึ่งเป็นเพื่อนของ วี หนุ่มหล่อที่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน จนวันหนึ่งความสัมพันธ์ของวีและแฟนสาวได้เลิกรากัน ทำให้ วี หันมาหาคนที่คอยปลอบใจอย่าง มาร์ค ทำให้เกิดเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนเกินขึ้นระหว่างคำว่ารุ่นพี่กับรุ่นน้อง ความรักสุดวุ่นวายก็ได้เริ่มขึ้นhttps://www.instagram.com/p/CJGkQMeAJjl/รีวิวหลังได้รับชมทีเซอร์การดำเนินเรื่องเนื้อเรื่องเข้มข้นมากกว่าเดิม รวมไปถึงนักแสดงสมทบหน้าใหม่และมาในลุคใหม่ไฉไลกว่าเดิม และแถมยังฟินมากยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ จากทีเซอร์ก็แอบมีฉากที่พระนางอาบน้ำด้วยกันนะค่ะ^^ แค่คิดก็ฟินไปก่อนแล้วววว555+ ซึ่งเราคิดว่าน่าจะได้เห็นรายละเอียดของตัวละครชัดเจนมากขึ้น เพราะจากเนื้อเรื่องในปีที่ผ่านมาเราว่าเนื้อเรื่องดูสั้นและกระชับจนเกินไป ทำให้รู้สึกขัดกับอารมณ์อยู่ไม่น้อย ต้องบอกว่าเราคาดหวังกับการดำเนินเรื่องอยู่มาก ยังไงก็อย่าลืมไปติดตามชมกันนะคะhttps://www.instagram.com/p/CaBVN_nhl2N/ฉากที่ชอบจากทีเซอร์นี่แอบตกใจซีนอาบน้ำด้วยกันอยู่นะคะ^^ มันเขิลแทนไม่ไหว อยากจะร้องกรี๊ดดัง ๆ และฉากที่เราชอบก็เป็นซีนที่วีเข้ามาขัดขวางมาร์คเพื่อไม่ให้ไปทำลายความรักของบาร์ เราคิดว่าเป็นซีนที่เข้าถึงอารมณ์ ซึ่งหลักจากคู่กัดเป็นคู่รักหนุ่มวีของเราก็ดูแอ๋วเก่งขึ้นเยอะกว่าภาคแรกอีกครั้ง ทั้งกวนทั้งจิ้น เขิลจนตัวลอยกันไปเลย!https://www.instagram.com/p/CUEdiYuh9Q8/เคมีพระนางไม่พูดถึงก็คงไม่ได้เลยสำหรับเคมีพระนางของซีรีส์ ต้องบอกก่อนเลยนะคะว่ายิ่งดูยิ่งฟิน เป็นคู่ที่เหมาะสมลงตัวเป็นอย่างมาก เคมีเกินต้านสุด ๆ ต้องยกความดีความชอบให้กับนักแสดงทั้งสองคนเลยค่ะ สามารถถ่ายทอดอารมณ์และบทบาทของตัวละครออกมาได้สมจริงมากเลยทีเดียว และก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความฟินจะฟุ้งกระจายไปทั่วจอแรงกว่าเดิม^^https://www.instagram.com/p/Cdz0TwmL1Or/https://www.instagram.com/p/Ceh3zS8rbFJ/ความน่าติดตามหากเพื่อน ๆ ที่รอคอยต้องบอกเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน กลับมาครั้งนี้หนุ่มหยิ่น และหนุ่มวอร์ ก็เอาเซอร์ไพรส์มาแจกกันรัว ๆ เลยจ้า อาทิเช่นนักแสดงสมทบที่นำทีมโดย พร้อม ราชภัทร (รับบทเป็น เหนือ รุ่นพี่ที่แอบสนใจมาร์ค), ริท เรืองฤทธิ์ (รับบทเป็น แพ็ค แฟนเก่าของมาร์ค) และ เพิร์ธ วีริณฐ์ศรา (รับบทเป็น พลอย แฟนเก่าของวี) เรียกได้ว่าน่าติดตามสุด ๆ ซึ่งมีกำหนดออนแอร์ วันที่ 18 มิถุนายน 2565 สามารถรับชมถูกลิขสิทธิ์ได้ทาง WeTV ผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน รวมทั้งทางกล่อง TrueID TV ได้แล้ววันนี้ "ออนทุกวันเสาร์ 21.00 น. เริ่ม 18 มิถุนายน 2565 "ดูซีรีย์ WeTV ซื้อผ่าน TrueID ได้นะเพียงเดือนละ 99 บาท คลิกเลย!!!ตัวอย่างขั้นตอนการซื้อแพ็คเกจ หรือ สมัครสมาชิก VIP ผ่าน แอป1. เข้าแอป WeTV คลิกที่ รูปคน บัญชีผู้ใช้2. คลิกปุ่มซื่อ VIP ที่นี่3. เลือก VIP แพ็กเกจที่ต้องการ และคลิก สมัครทันที 4. Log in เลือก TrueMoney Wallet และกด Buy จ่ายด้วยเงิน TrueMoney Wallet เป็นอันเสร็จสิ้น(ภาพแคปโดยเจ้าของบทความ) Trailer : กลรักรุ่นพี่ | Love Mechanics อย่าลืมติดตามซีรีย์เด็ดๆ ของ WeTV มาใหม่น่าดูอาทิ เทียบท้าปฐพี (พากย์ไทย) , กลรักรุ่นพี่ และคุณคือปฏิญาณแห่งรัก ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2565บทความแนะนำจากนักเขียนม้าน้ำรีวิวซีรีส์ Doctor Lawyer จากหมอศัลยแพทย์สู่ทนายความทางการแพทย์รีวิว Eve (2022) ซีรีส์แนวเมโลดราม่า ดอกไม้อันตรายที่กลับมาพร้อมการแก้แค้น!รีวิวซีรีส์ Welcome to Wedding Hell (2022) งานแต่งในฝัน...ร้ายรีวิวซีรีส์ Rose Mansion (2022) ฆาตกรรมลึกลับสู่ความน่าสะพรึงกลัวที่มาของรูปภาพและวิดีโอWeTV Thailand : ภาพหน้าปก / yinyin_anw : ภาพที่1 / warwanarat : ภาพที่2 / enoflove.official : ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 / ภาพที่6 / ภาพที่7Trailer : กลรักรุ่นพี่ | Love Mechanics : WeTV Originals คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน  

รีวิวมังงะ : Mechanical Buddy Universe
อ่าน

รีวิวมังงะ : Mechanical Buddy Universe

สวัสดีครับ หลายท่านคงเห็นมังงะเรื่องนี้มาบ้างแล้ว และมีขายในงานหนังสือไปแล้วด้วย ใช่แล้วหมายถึงเรื่อง Mechanical Buddy Universe ชื่อญี่ปุ่น : メカニカル バディ ユニバース นักเขียน : Takuji Kato สำนักพิมพ์ : Siam Inter Comics ลิขสิทธิ์ : SQUARE ENIX.,LTD.  จำนวนเล่ม ไทย 2 เล่ม ส่วนญี่ปุ่น 4 เล่ม (นับอิงตามนักเขียน) แนวเรื่อง : Sci-fi  นี้เรื่องราวของแอนดรอยด์รูปทรงมนุษย์ที่ทำภารกิจเสร็จสิ้น ได้พบกับเด็กที่ทิ้งในภัยสงครามในวันที่โลกล่มสลาย จนทั้งสองกลายเป็น [แม่ลูก] กัน  ความรู้สึกหลังอ่าน เอาความจริงเลยนะ ตอนแรกไม่รู้เลยว่าเล่ม Big Book กับเล่ม 1.0 มันแตกต่างกันยังไง จนรู้ความจริงจาก X ของผู้เขียนว่า ให้นับเล่ม Big Book เป็นเล่มแรก ส่วนเล่ม 1.0 เป็นเล่มสอง มาจุดเด่นของเรื่องนี้กัน คือ นำเสนอเรื่องเล่าของหุ่นยนต์กับมนุษย์ที่เป็นแม่ลูกกัน และการออกแบบหุ่นยนต์ที่สวยงามและน่าทึ่ง ซึ่งผสมผสานกับการเล่าเรื่องที่มีแอคชั่นและอารมณ์ขัน ทำให้ผู้อ่านรู้สึกสนุกและติดตามไปกับการผจญภัย นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอประเด็นทางจิตวิทยาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ และการค้นหาความหมายของมิตรภาพในโลกที่หุ่นยนต์เป็นส่วนสำคัญ ทำไมผมเขียนแบบนี้ หากเราตั้งใจอ่านตั้งแต่เล่ม Big Book มันตั้งใจแฝงความหมายนี้ไว้ https://youtu.be/8PXFUCZ3m8s?si=EUjd4VGinwz-FPYG มาที่ส่วนลายเส้น Big Book เออทำไมดูสวยบ้างไม่สวยบ้างเพราะว่าอันนี้คือต้นฉบับแรกของเรื่องนี้ ซึ่งพอมาเล่ม 1.0 มาลายเส้นมีการตัดเส้นให้คมแล้วมันสวยขึ้นเพื่อให้คนอ่านรู้สึกสนุกไปกับงานภาพที่ดีขึ้น ส่วนตัวละครแน่นอนว่าคาแรคเตอร์ตัวละครที่โดดเด่น คือ หุ่นยนต์ ซึ่งที่บอกว่าน่าทึ่ง ตามภาพนี้เลย ภายนอกดูเหมือนคนทั่วไป แต่ภายในไม่ใช่อย่างที่คิดไว้  และสุดท้ายส่วนตัวเล่มตรงนี้ ผมจะแบ่งเป็น 2 แบบ เริ่มที่เล่ม Big Book จะเป็นเล่มใหญ่ก็จะมีภาพซ่อนอยู่ในปกในและแถมมีต้นฉบับของ Original แรกด้วย ส่วนเล่ม 1.0 อันนี้ก็จะเป็นเล่มมีงงะปกติซึ่งโดยจะมีภาพอีกแบบหนึ่งและเนื้อหาบางส่วนในเรื่องนี้ด้วย คุณภาพพิมพ์ดี ไม่มีปัญหาเรื่องหมึกพิมพ์ ภาพคมชัด การแปลไม่มีข้อผิดพลาดถือว่าสมบูรณ์แบบ กระดาษเป็น SMOOTHBRIGHT Plus และราคา เล่ม Big Book ราคา 230 บาท ส่วนเล่ม 1.0 ราคา 110 บาท สรุปโดยรวมๆเนื้อเรื่องดี สนุก ฉากต่อสู้โคตรมันส์ อีกทั้งยังมีแง่คิดดีๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์และการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ ผมให้คะแนน 9.5/10 สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้ช่วยกดแชร์หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook : WV review บทความ TrueID : WV เรียบเรียงโดย : WV เครดิตภาพ ภาพปกและภาพประกอบที่ 1 , 2 : ผู้เขียน ภาพประกอบจาก X : @isiyumi : 3 , 4 วิดีโอจาก YouTube : スクウェア・エニックス เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

พิมพ์งานอย่างเพลิดเพลินด้วย Mechanical Keyboard
อ่าน

พิมพ์งานอย่างเพลิดเพลินด้วย Mechanical Keyboard

เพื่อน ๆ ชาวทรูอินเทรนด์พิมพ์งานเป็นอย่างไรกันบ้าง ? เราเชื่อว่าบางครั้งเพื่อน ๆ คงจะไม่มีฟีล ไม่มีอารมณ์ในการเขียนบทความกันใช่ไหม เราขอบอกเลยว่า เราก็เป็นเหมือนกันในบางครั้ง แต่อย่าให้ปัญหาเหล่านี้มาขัดขวางการเขียนบทความของเรา เพราะว่าในบทความนี้ เรามีความคูล ความฟิน ในรูปแบบที่หลายคนนึกไม่ถึงมานำเสนอ (จริง ๆ ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก ฮ่า ๆ) หรือบางที่อาจจะเป็นความฟินหรือความสุขโดยส่วนตัวของเราเองก็ได้ แต่เราก็หวังว่าเพื่อน ๆ ผู้ที่อ่านบทความนี้น่าจะชอบ... เอาล่ะ เข้าเรื่องกันเลย เพื่อน ๆ นักเขียนทุกคนที่เขียนบทความในคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์หลักที่ต้องใช้ในการเขียน หรือพิมพ์บทความคือ "คีย์บอร์ด" ในที่นี้ไม่ใช่คีย์บอร์ดดนตรีแต่อย่างใด มันคือคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์นั่นเอง แน่นอนว่าคนที่มีคอมพิวเตอร์ต้องมีคีย์บอร์ดกันอยู่แล้วล่ะ แต่ว่าคีย์บอร์ดที่นิยมใช้ หรือที่เราใช้ ๆ กันอยู่ มันไม่ได้อรรถรสในการพิมพ์เอาเสียเลย แต่ถ้ายี่ห้อที่ดี ๆ หรือเป็นคีย์บอร์ดที่ออกแบบมาดีหน่อย ก็ดีไป ส่วนใหญ่แล้วคีย์บอร์ดตามคอมพิวเตอร์บ้าน ๆ ทั่วไป จะเป็นคีย์บอร์ดปุ่มยาง แต่จะมีคีย์บอร์ดอีกประเภทหนึ่งที่ไม่ค่อยนิยมใช้กันเท่าใดในปัจจุบัน ซึ่งสามารถพบได้ตามสำนักงานต่าง ๆ ธนาคาร หรือแม้แต่ในมหาวิทยาลัย แต่ปัจจุบันพบได้ยากแล้วตามสถานที่เหล่านี้ในประเทศไทย ซึ่งคีย์บอร์ดที่เรากำลังกล่าวถึงกันอยู่ ก็คือคีย์บอร์ดที่ปุ่มกดเป็นแบบกลไก เดี๋ยวเราจะมาทำความรู้จักกับคีย์บอร์ดสองประเภทนี้แบบคร่าว ๆ กันRubber Dome Keyboard   เราจะขอเรียกเจ้าคีย์บอร์ดชนิดนี้ว่า คีย์บอร์ดยาง นะครับ เป็นคีย์บอร์ดที่นิยมใช้กันแพร่หลายในปัจจุบัน ลองก้มมองที่คีย์บอร์ดของเพื่อน ๆ ดูตอนนี้ เรามั่นใจ 80% ว่าเป็นคีย์บอร์ดยาง สาเหตุที่นิยมใช้เพราะว่า เป็นคีย์บอร์ดที่มีราคาถูก วัสดุเป็นพลาสติก น้ำหนักเบา และสาเหตุที่เรียกว่าคีย์บอร์ดยางก็เพราะว่า ใต้ปุ่มแป้นพิมพ์ของคีย์บอร์ดนั้นเป็นแผ่นยางที่ใช้รองรับการกดของนิ้วเราที่กดลงไปบนคีย์บอร์ด และทำให้เสียงของคีย์บอร์ดนั้นเบาหรือมีความเงียบนั่นเองMechanical Keyboard   พระเอกของบทความนี้ก็คือเจ้า คีย์บอร์ดแบบแมคคานิคอล เป็นคีย์บอร์ดที่เหล่าเกมเมอร์รู้จักกันดี และนิยมใช้ในการเล่นเกมในปัจจุบัน แต่ย้อนกลับไปหลายสิบถึงยี่สิบปีที่แล้ว คีย์บอร์ดแมคคานิคอลเคยนิยมใช้ในกลุ่มคนทำงานมาก่อน แต่ปัจจุบันดูเหมือนจะถูกทิ้งตามโรงขยะไปแล้ว บ้างก็ต้องทำลายทิ้งหรือเก็บไว้ในห้องเก็บของเก่าตามสำนักงาน เพราะส่วนใหญ่ของใช้ของสำนักงานนั้นมีทะเบียน จึงไม่สามารถนำมาขายอะไหล่ตามตลาดได้ คีย์บอร์ดแมคคานิคอลสัมผัสตอนกดให้อารมณ์คล้ายกับกดเครื่องพิมพ์ดีด แต่แรงกดไม่จำเป็นต้องถึงขนาดเครื่องพิมพ์ดีดนะ ฮ่า ๆ ด้วยปุ่มกดที่เป็นแบบสวิตช์ (Switch) เป็นแบบกลไก ทำให้ตอนกดลงไปนั้นมีเสียงที่ค่อนข้างดังกว่าแบบคีย์บอร์ดยาง (เสียงดังแต่ฟิน) แต่ว่าก็มีสวิตช์ที่มีเสียงเบาด้วยเช่นกัน ใช่แล้วล่ะ คีย์บอร์ดแมคคานิคอล มีสวิตช์ให้เลือกใช้หลายแบบตามความชอบ โดยจะแบ่งตามสี และแบ่งตามประเภทของสวิตช์อีกด้วย แต่ละแบบก็จะมีเสียง มีการรองรับแรงกด มีจังหวะการกด ที่แตกต่างกันไป แน่นอนว่าความฟินในการกด ผู้ใช้สามารถเลือกได้ตามใจชอบ ซึ่งมันจะเป็นการเพิ่มอรรถรสในการพิมพ์งานหรือพิมพ์บทความมาก ๆ อยากให้เพื่อน ๆ ได้รองใช้กันดูครับ และในบทความนี้ เราจะยกตัวอย่างคีย์บอร์ดของเราเองมาให้ชมกัน... แต่ไปดูข้่อดี และข้อเสียกันก่อนดีกว่า ข้อดี - ความทนทานสูง รองรับการกดมากกว่า 50 ล้านครั้ง - สวยงาม สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ ในเรื่องของแป้นพิมพ์ที่เปลี่ยนได้ โดยจะเรียกว่า คีย์แคป (Keycaps) - ฟีลลิ่งในการกดดีมาก ๆ เหมาะแก่การพิมพ์งานและเล่นเกม - ป้องกันการกดผิดได้ในระดับหนึ่ง - มีให้เลือกหลายแบบ หลายประเภทตามความต้องการของผู้ใช้ข้อเสีย - ราคาค่อนข้างสูง - บอดี้ค่อนข้างมีน้ำหนักและแล้วก็มาถึงช่วงโชว์ของ เจ้าคีย์บอร์ดของเราตัวนี้ เป็นคีย์บอร์ดแมคคานิคอล สำหรับเกมมิ่ง แต่เราซื้อมาเพื่อพิมพ์งานโดยเฉพาะ เพราะฟิลลิ่งในการกดนั้นสนุกมาก เจ้าตัวนี้ชื่อว่า AJAZZ AK33 เป็นคีย์บอร์ดจากประเทศจีน แป้นพิมพ์ไม่มีคีย์ไทยมาให้ แต่ร้านที่เราซื้อมา แถมสติ๊กเกอร์ภาษาไทยมาให้ด้วย สามารถนำมาแปะลงบนแป้นได้ โดย AJAZZ AK33 นั้นมีเลย์เอาท์แบบ 82 คีย์ หรือที่เรียกว่าคีย์บอร์ดแบบ 75% ก็คือจะมีขนาดเล็ก ตัดแป้นตัวเลขหรือ Numpad ออกไป และมีปุ่มทุกปุ่มบนแป้นที่ติดกันโดยไม่เว้นที่ว่าง เจ้าตัวนี้เป็นสวิตช์สีดำ (Black Switch) ลักษณะเด่นของสวิตช์สีดำคือ มีความเงียบมาก เวลาพิมพ์งานทำให้ไม่รบกวนคนอื่น แม้จะมีเสียงที่เบา รุ่น AK33 นี้จะมีอยู่สองสวิตช์ที่ผลิตออกมาคือ Blue Switch ที่เสียงดัง การกดแบบสองจังวะ กับ Black Switch ที่เสียงเงียบ การกดแบบจังหวะเดียว ฟีลลิ่งในการกดของสองแบบนี้จะแตกต่างกันมาก ใครชอบแบบใดก็เลือกแบบนั้นเลยสุดท้ายนี้ หากเพื่อน ๆ เป็นสายพิมพ์งาน ทำงานเอกสารที่ต้องพิมพ์งานทั้งวัน หรือสายเกมมิ่งที่เล่นเกมทั้งวัน ใช้เวลาอยู่กับคอมพิวเตอร์เกือบตลอดทั้งวัน แนะนำให้เพื่อน ๆ ลองหันมาใช้แมคคานิคอลคีย์บอร์ดครับ เพราะอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ ก็จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน แถมยังเพลิดเพลินกับเสียงคีย์บอร์ด สัมผัสความฟินในการกดในแต่ละครั้ง ทำให้เรามีไฟในการทำงานมากขึ้นครับ โดยหากเพื่อน ๆ สนใจคีย์บอร์ดแบบของเรา สามารถสั่งซื้อได้ที่นี่เลย Lazada จงเพิ่มความสนุกให้ตัวคุณเอง เอาล่ะ บทความนี้ของลาไปก่อน บ๊าย บาย ... ปล. ชอบคีย์บอร์ดสีขาว เพราะมันดูวินเทจมาก ๆ ภาพโดย นัทเชล (ผู้เขียน)    

ส่องสเปคนาฬิกา Citizen Promaster Mechanical Diver NY012 ราคาเท่าไหร่ ทำไมน่าสะสม
อ่าน

ส่องสเปคนาฬิกา Citizen Promaster Mechanical Diver NY012 ราคาเท่าไหร่ ทำไมน่าสะสม

ใครที่ชื่นชอบนาฬิกา Citizen โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตระกูล Marine นาฬิกา Citizen ในรุ่น Promaster Mechanical Diver NY0120 เป็นอีกรุ่นที่น่าจับตามองหรือหามาสะสม แล้วนาฬิกา Citizen Diver NY012 มีการออกแบบได้ดีขนาดไหน มีฟังค์ชั่นอะไรบ้างที่ผู้ชื่นชอบนาฬิกาต้องรัก สนนราคาอยู่ที่เท่าไหร่มาดูกัน ส่องสเปคนาฬิกา Citizen Promaster Mechanical Diver NY012 ราคาเท่าไหร่ ทำไมน่าสะสม ลูกค้าทรูรับส่วนลด 10% เมื่อซื้อสินค้าที่ Watch Station ครบ 5,000 บาท หมดเขต 31 ธ.ค. 2566 NY0129-07L NY0120-01E NY0120-01X NY0120-01Z NY0121-09X นาฬิกา Citizen Promaster Mechanical Diver NY012 มีสีอะไรบ้าง นาฬิกา Citizen Promaster Mechanical Diver NY012 มีทั้งหมด 5 เฉดสีให้เลือก ทั้งดำ เหลือง ส้ม เขียว น้ำเงิน โดยจุดเด่นของสีหน้าปัดในรุ่นนี้ได้มีการไล่ขอบนอกด้วยสีดำเข้ามาจึงทำให้รุ่นตัวเรือนสีเหลือง กับส้มนั้นดูโดดเด่นจัดจ้านเป็นพิเศษ นาฬิกา Citizen Promaster Mechanical Diver NY012 มีรุ่นไหนบ้าง นาฬิกา Citizen Promaster Mechanical Diver NY012 นั้น แบ่งออกเป็น NY0120-01E (ดำ), NY0120-01X (เหลือง), NY0120-01Z (ส้ม), NY0121-09X (เขียว), NY0129-07L (น้ำเงิน) การออกแบบที่โดดเด่นของ นาฬิกา Citizen Promaster Mechanical Diver NY012 นาฬิกาสำหรับนักดำน้ำที่คลาสสิกที่มีการออกแบบเหนือกาลเวลา ตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 41 มม. ดูโฉบเฉี่ยว และเรียบง่ายหน้าปัดมีการทำเท็กซ์เจอร์ที่ดูดุลุย ส่งการทำสีที่ขอบหน้าปัดนั้นดูเท่ยิ่งขึ้น เข็มนาฬิกา และเครื่องหมายบอกเวลามีขนาดใหญ่เรืองแสงที่ทำให้อ่านง่ายในสภาพแสงน้อย สายยางมีความทนทานดูแลง่าย เม็ดมะยมของ NY012 ทำจากสแตนเลส ง่ายต่อการจับและใช้งาน ดีไซน์สวยงามใส่ได้ทั้งวันลุยๆ หรือวันที่เป็นทางการ ฟังค์ชั่น และคุณสมบัติอื่นๆ ของ Citizen Promaster Mechanical Diver NY012 Citizen NY012 ขับเคลื่อนด้วย Calibre 8204 ของ Citizen ซึ่งเป็นกลไกอัตโนมัติที่เชื่อถือได้ และมีความแม่นยำ พลังงานสำรอง 42 ชั่วโมง ขอบหน้าปัดแบบหมุนได้ทิศทางเดียวของ NY0120 เป็นฟังค์ชั่นสำคัญสำหรับนักดำน้ำ ช่วยให้สามารถติดตามเวลาการดำน้ำที่ผ่านไปได้ การคลิกจะส่งเสียงตอบรับ และสัมผัสได้จึงสามารถจังหวะเวลาได้แม่นยำในระหว่างกิจกรรมใต้น้ำ กันน้ำได้ลึกถึง 200 เมตร (20 บาร์) มองเห็นได้ชัดเจนในสภาพแสงน้อย หน้าปัดมิเนอรัลคริสตัลทนทานทนต่อการกระแทก ทนต่อการขีดข่วน นาฬิกา Citizen Promaster Mechanical Diver NY012 ราคาเท่าไหร่ ราคาเปิดตัวในปี 2023 อยู่ที่ราคา 15,600 บาท สเปค Citizen Promaster Mechanical Diver NY012 Model NY0120-01E สีดำ NY0129-07L สีน้ำเงิน NY0121-09X สีเขียว NY0120-01X สีเหลือง NY0120-01Z สีส้ม Case/Band Stainless Steel / Polyurethane Crystal Mineral Crystal Dial Colour Grey Blue Green Yellow Orange Size 41.0mm / 13.7mm (design specification only) Movement Cal.8204 / Automatic / Day Date Display / Rotating Bezel / 200m water resistance / Luminous (hands + indices + bezel at 12 oclock) / Approx. 40 hours power reserve บทความที่คุณอาจสนใจ นาฬิกาข้อมือผู้ชาย แบรนด์ DIESEL นาฬิกาผู้ชายเท่ๆ สไตล์ Y2K ใส่ได้หลายลุค นาฬิกา CASIO ผู้ชาย ราคาไม่เกิน 2,000 บาท รุ่นไหนดี ปี 2023 10 นาฬิกา Casio สำหรับผู้ชาย 2023 นาฬิกาคาสิโอ รุ่นไหนดี ที่ผู้ชายต้องมี! 7 นาฬิกาผู้ชาย แบรนด์ไหนดี 2023 รุ่นไหน ยี่ห้อไหน เท่และดูดี ดีไซน์เรียบหรู นาฬิกา G-SHOCK ราคาไม่เกิน 3,000 บาท นาฬิกา G-SHOCK ผู้ชาย ราคาถูก รุ่นไหนดี นาฬิกาสายหนัง ผู้ชาย แบรนด์ไหนดี ปี 2023 นาฬิกาสายหนังผู้ชาย ใส่แล้วหรู ดูดี ------------------------------------------------- วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2023/24 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่! เคล็ดลับการรับชมพรีเมียร์ลีกให้มันส์จุใจในทุกช่องทาง คลิกเลย!

รวบรวมคำที่มีความหมาย I AGREE
อ่าน

รวบรวมคำที่มีความหมาย I AGREE

สวัสดีค่ะ ทุกท่านกลับมาพบกับ Diary Therapy กันอีกครั้งนะคะ เคยมั้ยค่ะที่เวลาทำงานร่วมกับชาวต่างชาติเรามักจะใช้คำพูดเดิม ๆ เพราะคลังคำศัพท์ที่เรามีอาจมีคำศัพท์แค่นั้น จริง ๆ ทั้ง ๆ ที่เราสามารถพูดหรือใช้คำได้มากกว่าการที่เราพูดคำเดิม  อย่างการที่มีความคิดเห็นอย่างเดียวกันหรือเห็นด้วยกับคู่สนทนา ก็มักจะใช้คำเดิมว่า "I AGREE" หรือถ้าให้ยาวขึ้นมาหน่อยก็ใช้คำว่า "I AGREE WITH YOU" ดังนั้นวันนี้ผู้เขียนขอรวบรวมคำที่มีความหมาย "ที่มีความคิดเห็นอย่างเดียวกันหรือเห็นด้วย" มาฝากทุกท่านค่ะขอบคุณรูปภาพของ Sasin Tipchai จาก Pixabay 1. I guess so สำหรับคำนี้จะไม่ได้ใช่แบบเห็นด้วย 100% กับผู้พูดแต่เป็นการเห็นด้วยบางส่วน 2. I totally agree with you. เป็นการเห็นด้วยกับผู้พูด 100 %3. Definitely หรือ I definitely agree. เป็นการเห็นด้วยอย่างยิ่งกับผู้พูด ซึ่ง Definitely คำนี้มีความหมายว่า "อย่างแน่นอน"4. Absolutely หรือ I absolutely agree. เป็นการเห็นด้วยอย่างยิ่งกับผู้พูด ซึ่ง Absolutely คำนี้มีความหมายว่า "อย่างแน่นอน" หรือ เห็นด้วยอย่างยิ่งขอบคุณรูปภาพของ StockSnap จาก Pixabay 5. Yes, you're right. ใช่!ถูกของคุณ ซึ่งเป็นการเห็นด้วยกับผู้พูด 100 %6. Exactly อย่างแน่นอน หรือถ้าพูดภาษาไม่เป็นทางการอย่างเราพูดจะมีความหมายประมาณว่า ใช่ ๆ ,ใช่เลย 7. You’re right. ใช่เลยค่ะ8. I quite agree with you. ฉันค่อนข้างเห็นด้วยกับคุณนะ เป็นการใช้แบบไม่ได้เห็นด้วยกับคุณ 100% แต่ก็ค่อนข้างเห็นด้วย9. I hope so ฉันก็หวังว่าอย่างนั้น ขอบคุณรูปภาพของ StockSnap จาก Pixabay 10. That's so true. จริงที่สุดเลย  11. That seems obvious, but…  เหมือนจะใช่นะ! แต่ว่า…12. You're quite right. คุณค่อนข้างถูก (ใช้เมื่อคู่สนทนาของเราไม่ได้ถูกต้อง 100%)13. I think you are right. ฉันคิดว่าคุณทำถูก หรือ ฉันคิดว่าคุณคิดถูก14. That may be true, but…  ก็อาจจะใช่นะ แต่…(ใช้เมื่อคู่สนทนาของเราไม่ได้ถูกต้อง 100%)15. That’s partly true, but…  มันก็จริงอยู่ส่วนหนึ่งนะ แต่… (ใช้เมื่อคู่สนทนาของเราไม่ได้ถูกต้อง 100%)ซึ่งในหลาย ๆ ครั้งของการทำงานเรามักจะเจอสถานการณ์หลาย ๆ อย่างในการสนทนาหรือแม้แต่เวลาประชุมงานต้องมีการแสดงความคิดเห็นทั้งอาจเห็นด้วยทั้งหมด หรือเราอาจเห็นด้วยในบางส่วน หรือแม้แต่ไม่เห็นด้วยกับผู้พูด หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับหลาย ๆ ท่าน และได้นำไปใช้ในการทำงานกับเพื่อนร่วมงาน ลูกค้าหรือ supplier ชาวต่างชาติค่ะสำหรับบทความนี้ผู้เขียนหวังว่าจะมีประโยชน์และถูกใจหลาย ๆ ท่านนะคะ ไว้พบกันคราวหน้าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรนั้น ขอฝากติดตามผลงานกันด้วยนะคะ สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนสวัสดีค่ะ ติดตามบทความอื่น ๆที่นี่ค่ะ :  Diary Therapyขอบคุณรูปภาพปก : รูปภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay Diary Therapy    

รีวิว ตำแหน่งงาน “Manufacturing Engineer” หรือ “วิศวกรการผลิต” มีหน้าที่ทำอะไรบ้าง? มีเงินเดือนดีไหม? ความก้าวหน้าเป็นอย่างไร?
อ่าน

รีวิว ตำแหน่งงาน “Manufacturing Engineer” หรือ “วิศวกรการผลิต” มีหน้าที่ทำอะไรบ้าง? มีเงินเดือนดีไหม? ความก้าวหน้าเป็นอย่างไร?

ภาพหน้าปกจาก: Pixabay / RAEng_Publicationsรีวิว ตำแหน่งงาน “Manufacturing Engineer” หรือ “วิศวกรการผลิต” มีหน้าที่ทำอะไรบ้าง? มีเงินเดือนดีไหม? ความก้าวหน้าเป็นอย่างไร? สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกๆ คน สำหรับหลายๆ คน ที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม ก็จะรู้ดีว่า ในโรงงานอุตสาหกรรมนั้น ก็จะมีตำแหน่งงานมากมาย และตำแหน่งงานหนึ่งที่มีความสำคัญในโรงงานอุตสาหกรรมนั้นก็คือ “วิศวกร” เพราะเหล่า “วิศวกร” จะเป็นกำลังหลักๆ เลย ในการขับเคลื่อนองค์กร ให้มีกำไร ให้มีประสิทธิภาพ และลดต้นทุนในการผลิต นั้นเองภาพจาก: Pixabay / PublicDomainPicturesซึ่งตำแหน่งงานที่เกี่ยวกับ “วิศวกร” นั้นก็มีมากมายหลากหลายเช่นกัน ยอกตัวอย่างเช่น Production Engineer, Process Engineer, Maintenance Engineer หรือ Quality Engineer เป็นต้น แต่สำหรับที่เราจะพูดถึงในครั้งนี้นั้นก็คือ “Manufacturing Engineer” หรือ “วิศวกรการผลิต” นะครับผมก่อนอื่นผมขออธิบายให้ทุกๆ ท่าน ได้ทราบก่อนนะครับว่า “Manufacturing Engineer” หรือ “วิศวกรการผลิต” นั้น คืออะไร? หมายความว่าอย่างไร?คำว่า “Manufacturing” แปลว่า “การผลิต” ส่วนคำว่า “Engineer” แปลว่า “วิศวกร” ซึ่งนำ 2 คำนี้มารวมกัน ก็จะเป็น “Manufacturing Engineer” ที่แปลว่า “วิศวกรการผลิต” นั้นเองนะครับที่นี้เรามาดูหน้าที่กี่ทำงานของ “Manufacturing Engineer” หรือ “วิศวกรการผลิต” กันนะครับว่า มีหน้าที่ทำอะไรกันบ้างในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งก่อนอื่นผมต้องขอบอกก่อนนะครับว่า ผมจะอธิบายหน้าที่การทำงานของ “Manufacturing Engineer” ตามที่ผมเคยทำงานผ่านมานะครับ รายละเอียดของเนื้องานอาจจะไม่เหมือนกับหลายๆ คน แต่ผมคิดว่าน่าจะคล้ายๆ กัน น่าจะไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่นะครับภาพจาก: Pixabay / Ekkasit Chaingam“Manufacturing Engineer” หรือ “วิศวกรการผลิต” จะมีหน้าที่หลักๆ เลยนะครับ คือ ดูแลฝ่ายผลิต ไม่ว่าจะเป็นการ ออกแบบ, ดูและงบประมาณต้นทุน และดูแลการติดตั้ง เครื่องจักรอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงพื้นที่การทำงานด้วย เพื่อให้ฝ่ายผลิตทำงานได้ประสิทธิภาพสูงสุด ต้องทำการทำงานร่วมกับ “แผนกวางแผนการผลิต” เพื่อทำการวางแผนการผลิตในส่วนงานของตัวเอง“Manufacturing Engineer” ยังต้องทำการปรับปรุงพัฒนาฝ่ายผลิตในส่วนงานที่รับผิดชอบ ลดต้นทุน ลดเวลาในการผลิต เพิ่ม Productivity เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และ ควบคุมกระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐาน ให้ได้คุณภาพตามความต้องการของลูกค้าด้วยนอกจากนี้ “Manufacturing Engineer” ยังต้องดูแลงาน Projects เช่น การทดลองผลิตภัณฑ์ ในกรณีที่เป็น New Projects หรือ มีการเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ๆ ในกระบวนการผลิต ทั้ง Process และ Product ด้วยเช่นกัน หรือถ้าหากเป็น โรงงานอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ ก็ต้องรับผิดชอบงานในด้าน APQP และ เอกสาร PPAP ด้วย นะครับผม ไม่ว่าจะเป็น Control Plan, PFMEA, Work Instruction และ อื่นๆ เป็นต้นเพื่อนๆ หลายๆ คน คงจะมีคำถามใช่ไหมครับว่า ทำไมหน้าที่การทำงาน มันคล้ายๆ กับ “Production Engineer” กับ “Process Engineer” เลย คำตอบก็คือ จะว่าไปแล้ว รายละเอียดของหน้าที่การทำงานนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า แต่ละองค์กร จะกำหนดไว้อย่างไรด้วยนะครับภาพจาก: Pixabay / x3แต่ส่วนตัวผมเองคิดว่า “Manufacturing Engineer” ก็คือการนำหน้าที่การทำงานของ “Production Engineer” กับ “Process Engineer” และมีหน้าที่การทำงานบางส่วนของ “Project Engineer” และ “Quality Engineer” รวมอยู่ด้วย เอาง่ายๆ เลยนะครับ ว่า ทำทุกอย่างที่อยู่ในส่วนที่ตัวเองดูแลอยู่นั้นเอง ครับผม ไม่ว่าจะเป็น กระบวนการการผลิต, เครื่องจักรและอุปกรณ์, กำลังคนทำงาน, ลดของเสีย, ปรับปรุงคุณภาพ, ปรับปรุงกระบวนการผลิต, ลดต้นทุน และ อื่นๆ เป็นต้น ครับผมสำหรับเงินเดือนเริ่มต้นของตำแหน่งงาน “Manufacturing Engineer” ของคนที่พึ่งเริ่มทำงาน โดยยังไม่มีประสบการณ์เลยนะครับ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 18,000 – 25,000 บาท ต่อ เดือน ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถด้วยนะครับ บางคนอาจจะเก่งภาษาต่างประเทศ หรือมีความสามารถอื่นๆ ก็อาจจะได้เงินเดือนที่สูงมากกว่านี้ได้นะครับสำหรับการเจริญเติบโตของตำแหน่งงาน “Manufacturing Engineer” นี้นะครับ ก็จะเริ่มจาก Engineer และเลื่อนตำแหน่งเป็น Manager และก็เป็น General Manager และก็เป็น Director เป็น President และ COO สุดท้ายก็เป็น CEO นะครับ หรือถ้าหากใครต้องการจะไปเปิดกิจการของตัวเอง ก็จะได้ความรู้จากการที่ดูแลฝ่ายผลิต ซึ่งง่ายต่อการไปเปิดโรงงานของตัวเองได้เช่นกันนะครับภาพจาก: Pixabay / Christian Reilผมหวังว่า คงจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ น้องๆ ทุกๆ คนนะครับ หลายๆ คน คงจะมีความกระจ่างมากขึ้นนะครับ สำหรับ ตำแหน่งงาน “Manufacturing Engineer” หากมีคำถามเพิ่มเติมก็สอบถามเข้ามาได้เลยนะครับ ขอบคุณมากๆ ครับผมภาพหน้าปกจาก: Pixabay / RAEng_Publicationsภาพจาก: Pixabay / PublicDomainPicturesภาพจาก: Pixabay / Ekkasit Chaingamภาพจาก: Pixabay / x3ภาพจาก: Pixabay / Christian Reil 

อัพเดท COM7 มีอะไรใหม่?
อ่าน

อัพเดท COM7 มีอะไรใหม่?

#ทันหุ้น - บล.เคจีไอ ส่องหุ้น บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 คาดว่าน่าจะได้อานิสงส์จำกัดจากมาตรการ Easy E-receipt ด้านยอดขาย อัตรากำไรมีความเสี่ยงจากประเด็นการลงแอพฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต และกำไรกลับมาโตในระดับปกติ ฝ่ายวิจัยจึง de-rate PER ลงจากเดิม 22.0X เหลือ 18.0X และปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ลงจากเดิม 31.00 บาท เหลือ 23.00 บาท โดยยังคงคำแนะนำ ถือ COM7 ฝ่ายวิจัยประมาณการ Q4/67 คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 802 ล้านบาท (+20% YoY, +13% QoQ) เนื่องจาก ยอดขายดีในช่วง high season ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิในปี 2567 อยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท (+8% YoY) ฝ่ายวิจัยคาดว่ายอดขายใน Q4/67 จะอยู่ที่ 2.14 หมื่นล้านบาท (+7% YoY, +19% QoQ) ซึ่งจะทำให้ยอดขายปี 2567 อยู่ที่ 7.7 หมื่นล้านบาท (+11% YoY) จากปัจจัยฤดูกาล ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกประเมินว่ายอดจดัส่ง smartphone ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 3% YoY ใน Q4/67 (นำโดย Apple) ซึ่งจะทำให้ยอดจัดส่ง smartphone ทั่วโลกในปี 2567 เพิ่มขึ้น 7% YoY ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน Q4/67 จะอยู่ที่ 12.6% (+1ppts YoY, - 0.7ppts QoQ) เนื่องจากยอดขาย iPhone มีน้ำหนักมากขึ้น เมื่อเทียบกบัยอดขายรวม น่าจะได้อานิสงส์จำกัดจากมาตรการ Easy e-receipt โดยมีความเสี่ยงจากการที่ smartphone ของ OPPO และ Realme ลงแอพฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่ายวิจัยยังคงมองว่า COM7 จะได้อานิสงส์จำกัดจากมาตรการ easy E-receipt เพราะวงเงินการใช้จ่ายตาม โครงการลดลง (จาก 50,000 บาทใน Q1/67 เหลือ 30,000 บาทใน Q1/68) นอกจากนี้ ยังมองว่ามีความเสี่ยงจากกรณีการติดต้้งแอพฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต (Fineasy และ Happy Loan) ในเครื่อง smartphone แบรนด์ OPPO และ Realme ซึ่งสื่อในประเทศรายงานว่าคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ได้สั่งห้ามขายเครื่องรุ่นใหม่ที่มีการลงแอพฯ เหล่านี้ไว้ และประสานงานกับทั้งสองบริษัทให้ถอนแอพฯ นี้ออกไปจากเครื่อง ซึ่งคาดว่าประเด็นนี้น่าจะไม่เพียงแต่จะกระทบยอดขายของ COM7 เท่าน้้น (ยอดขายแบรนด์ OPPO และ Realme ของ COM7 เทียบกับยอดขาย รวมเป็นเลขหลักเดียว) แต่การหยุดจำหน่ายยังจะกระทบกับสินค้าคงคลัง ซึ่งอาจจะทำให้ต้องตั้งสำรอง สำหรับสินค้าตกรุ่น และจัดโปรโมชั่น เพื่อฟื้นยอดขาย หั่นการกำไร และ de-rate PER ลง ฝ่ายวิจัย ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568 ลง 10% เพื่อสะท้อนถึง i) ประมาณการยอดขายลดลง 5% จาก ผลกระทบกรณีของ OPPO และ Realme และ ii) การปรับลดอตัรากำไรขั้นต้นลง 40bps เพื่อสะท้อนถึง ผลกระทบจากการจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย โดยคาดว่ากำไรสุทธิของ COM7 จะทรงตัวในปีนี้และจะเพิ่มขึ้น 10% ในปี 2569 โดยคาดว่ากำไรอาจจะโตได้ในช่วงเลขหลักเดียว หรือ สองหลักต่ำๆ จากฐานที่สูงของเครือข่ายร้านค้า (ผลกระทบต่ำจากการขยายสาขาร้าน) และการแข่งขันที่สูงขึ้นจากผู้เล่นรายใหม่ ดังนั้น ฝ่ายวิจัยจึง de-rate PER ลงจากเดิม 22.0X (ค่าเฉลี่ยในอดีต -0.5 S.D.) เหลือ18.0X (ค่าเฉลี่ยในอดีต -1.0 S.D.) เพื่อสะท้อนถึงกำไรที่กลับมาโตในระดับปกติ หั่นเป้าสิ้นปี 68 เหลือ 23 บ. แนะถือ พร้อมปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ลงจากเดิม 31.00 บาท เหลือ 23.00 บาท อิงจาก PER ที่ 18.0X และคงคำแนะนำ ถือ Risks อุปสงค์ smartphones ต่ำเกินคาด, รายได้จากการขายอุปกรณ์เสริมต่ำกว่าที่คาด, และมีการจัดรายการ ส่งเสริมการขายมากกว่าที่คาดไว้

หุ้นไทยคาดแกว่งขึ้นกรอบแคบ มีโอกาสเกิด Technical Rebound
อ่าน

หุ้นไทยคาดแกว่งขึ้นกรอบแคบ มีโอกาสเกิด Technical Rebound

ทันหุ้น-บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้จะแกว่งตัว Sideways up ในกรอบ 1,600-1,620 จุด หลังสัปดาห์ก่อนสามารถยืนปิดเหนือแนวรับ 1,600 จุดได้ ทำให้ระยะสั้นมีโอกาสเกิด Technical Rebound บรรยากาศการลงทุนผ่อนคลายขึ้นระยะสั้น หลัง Dollar Index และ Bond Yieldของสหรัฐอ่อนตัวลงจากแรงขายทำกำไร ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามคือการประชุมโอเปกพลัส ว่าจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าแผนเดิมที่ 4 แสนบาร์เรลต่อเดือนหรือไม่ ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังคงอยู่ที่สถานการณ์น้ำท่วมว่าจะลุกลามเพียงใด รวมถึงการทยอยเปิดเมืองควบคู่กับคุมการติดเชื้อ อย่างไรก็ตามยังให้น้ำหนักบวกกับการคลายล็อคดาวน์ และการเปิดเศรษฐกิจมากกว่าปัจจัยภายนอก กลยุทธ์ยังเน้น ถือเพื่อลงทุน และเน้นหุ้นกลุ่ม Value และ Reopening Play ได้แก่กลุ่มธนาคาร โรงกลั่น ค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว และรับเหมา เพราะมองว่าจะได้อานิสงส์ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

รีวิว : 3 รสชาตินมถั่ว 137 Degrees
อ่าน

รีวิว : 3 รสชาตินมถั่ว 137 Degrees

ตุ่นอะไร...ตุ่นอะไร...ตุ่นอะไร..มาตุ่นนมถั่วฮ่าๆ จากสถานการณ์แบบนี้ เราต้องหันมาบำรุงสุขภาพกันเถอะ วันนี้ Kanny จะพาทุกคนไปรู้จักกับนมถั่ว 137 Degrees ซื้อกันได้ที่ร้านสะดวกซื้อ Kanny ไปสอยมาจาก Big C แถวบ้านได้มา 3 รสชาติมี Almond, Pistachio และ Walnut มาทำความรู้จักกันเถอะ 1) Almond Milk นมอัลมอนด์สูตรนี้ไม่มีน้ำตาล ถูกใจสายคลีนแน่นอน อึกแรกที่ลองไม่มีความเหม็นเขียวถั่วเลย รสชาติเฝื่อนๆ จืดสนิท คล้ายดื่มน้ำเปล่า นมอัลมอนด์มีคุณค่าทางสารอาหาร โดยเฉพาะวิตามิน B, E และ Antioxidants ช่วยเสริมสร้างสมองและบำรุงผิวหนัง 2) Pistachio Milk นมพิสตาชิโอรสชาติออกไปทางจืดและออกมันๆ ที่เด่นสุดเลยคือกลิ่นเฉพาะตัวมาก กลิ่นถั่วติดปลายลิ้นขึ้นจมูกเลย แต่ส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบฮ่าๆ อีกใจหนึ่งก็คิดว่ามันมีประโยชน์กินไปๆ นมพิสตาชิโอมีคุณค่าทางสารอาหารโดยเฉพาะฟอสฟอรัสและแมกนีเซียม เนื่องจากมีไขมันไม่อิ่มตัวสูงจะช่วยลดไขมันชนิดเลวและเสริมสร้างไขมันชนิดดี ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย และยังมีวิตามินบี 6 ที่ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย 3) Walnut Milk นมวอลนัทรสชาติกลางๆ ไม่หวานแต่ก็ไม่จืดและสัมผัสได้ถึงความมันหอม ไม่เหม็นหื่นถั่วนมวอลนัทหรือนมถั่วสมอง มีคุณค่าทางสารอาหาร โดยเฉพาะวิตามินอีและฟลาโวนอยด์ ซึ่งช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม และยังมีโอเมก้า 3 ซึ่งมีสารเมลาโทนิน ช่วยทำให้การทำงานของระบบสมองสมดุลขึ้น การดื่มนมถั่วที่หลากหลายเป็นประจำทุกวัน จะช่วยบำรุงสุขภาพร่างกาย ถั่วชนิดไหนจุดเด่นบำรุงอะไรจำง่ายๆ นมอัลมอนด์ ช่วยบำรุงผิวพรรณ นมพิสตาชิโอ ช่วยลดไขมันชนิดเลว บำรุงหัวใจ นมวอลนัท มีโอเมก้าสูง ช่วยบำรุงสมอง ประโยชน์มากมายขนาดนี้ แถมหาซื้อได้ไม่ยากและง่ายต่อการบริโภคดูดปื๊ดๆ แป๊ปเดียวได้ประโยชน์เต็มๆลองซื้อมาทานกันนะคะ เราจะแข็งแรงไปด้วยกัน ไว้เจอกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ^^ ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.137degrees.net/healthbenefits https://www.naewna.com/lady/357336 https://positioningmag.com/1178240 📷 : เครดิตภาพของผู้เขียน สามารถติดตามผู้เขียนได้ทาง https://www.facebook.com/kannika.vingcharoen

รีวิว K4 Wireless Mechanical Keyboard - คีย์บอร์ดที่ดีที่สุดสำหรับสายโปรแกรมเมอร์
อ่าน

รีวิว K4 Wireless Mechanical Keyboard - คีย์บอร์ดที่ดีที่สุดสำหรับสายโปรแกรมเมอร์

ช่วงก่อนนักเขียนต้องทำงานที่ใช้คีย์บอร์ดเยอะมาก ๆ ดังนั้นนักเขียนเลยตัดสินใจจะซื้อ Mechanical Keyboard สักตัวเพราะว่าคีย์บอร์ดแบบธรรมดาหรือ Rubber Dome เวลาใช้งานที่พิมพ์เยอะ ๆ จะรู้สึกกดแล้วหนืด ๆ แล้วปวดข้อมือ จนกระทั่งไปเจอกับคีย์บอร์ดตัวหนึ่งที่เขาพูดกันว่าเป็นคีย์บอร์ดขั้นเทพสำหรับคนทำงานสายคอมพิวเตอร์ นั่นก็คือ Keychron K4 ที่จะมารีวิวนี้ค่ะKeychron K4 เป็นคีย์บอร์ดเชิงกลหรือ Mechanical Keyboard ที่สามารถทำงานได้ทั้งแบบไร้สายหรือจะต่อสายก็ได้ โดยคีย์บอร์ดมีสวิตซ์ให้เลือก 2 ประเภท คือ แบบ Gateron Switch และแบบ Optical Switch ซึ่งในแต่ละประเภทก็จะมีอีกหลายสี เช่น Red Switch ที่ให้สัมผัสจังหวะเดียวและเสียงเงียบ หรือจะเป็น Blue Switch ที่ให้สัมผัส 2 จังหวะและมีเสียง Clicky เป็นต้น โดยตัวที่นักเขียนซื้อมานั้นเป็นตัว Optical Red Switch ซึ่งเป็นสวิตซ์ที่เสียงเงียบและตอบสนองต่อการกดได้ดีมากสำหรับ Layout ของ Keychron K4 จะเป็นแบบ 96 % Layout ก็คือจะตัดส่วนช่องว่างระหว่าง Numpad (แป้นตัวเลข) กับตัว Keyboard ออกไป และขยับ Numpad และตัวลูกศรมาชิดกันและติดกับแป้นตัวอักษร ทำให้คีย์บอร์ดขนาดเล็กลงกว่าปกติ (ถึงจะบอกว่าเป็น 96% Layout แต่พอเทียบกับคีย์บอร์ดปกติเล็กลงกว่า 15% เลยทีเดียว) ทำให้เป็นคีย์บอร์ดที่พกพาได้ง่าย เหมาะกับการพกพาไปทำงานข้างนอกบ้านKeychron K4 สามารถทำงานด้วยระบบไร้สายได้โดยเชื่อมต่อโดย Bluetooth โดยสามารถเชื่อมต่อได้ 3 อุปกรณ์พร้อมกัน และสลับอุปกรณ์ได้เพียงแค่กดปุ่ม Fn + ตัวเลข 12 และ 3 โดยรองรับกับทุกระบบปฏิบัติการไม่ว่าจะเป็น Window, Android, Linux และ Mac ทำให้ Keychron เป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจนักพัฒนาโปรแกรมKeychron K4 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ในตัวขนาด 4,000 มิลลิแอมป์ ทำให้สามารถใช้งานได้นานถึง 4 วันโดยไม่ต้องชาร์จ หากปิดไฟ RGB หรือทำงานได้ 2 วันหากเปิดไฟ RGB เต็มที่ ใช้ได้เต็มที่จุใจKeychron K4 มีน้ำหนักที่ 960 กรัม ในรุ่นที่โครงสร้างเป็นอลูมิเนียม และน้ำหนัก 720 กรัมในรุ่นที่เป็นพลาสติก ส่วน Keycap ทำมาจากพลาสติก ABS โดยผิวสัมผัสจะออกด้าน ๆ เล็กน้อย ดูหรู มีสไตล์หลังจากที่นักเขียนใช้มาได้ 6 เดือน Keychron K4 ถือเป็นคีย์บอร์ดอันดับหนึ่งในใจนักเขียนเลยทีเดียวหากเพื่อน ๆ คนไหนกำลังมองหาคีย์บอร์ดอยู่ลองพิจารณาคีย์บอร์ด Keychron K4 ดูนะคะ ราคาอยู่ที่ ประมาณ 4000 บาทเท่านั้นเองค่ะ สามารถสั่งซื้อได้ที่ Link ได้นะคะ ใช้แล้วเป็นยังไงบ้างมาแชร์ประสบการณ์ให้นักเขียนฟังบ้างนะจ้า (รูปภาพทั้งหมดโดยนักเขียน)

มารี เมดสาวโรบอทกำมะลอ
ดู

มารี เมดสาวโรบอทกำมะลอ

รีวิว ท่านหญิง อย่าชิงหย่ากับข้า DECREED BY FATE ซีรีส์จีนความรักวุ่นๆของท่านหญิงและ2ท่านแม่ทัพ
อ่าน

รีวิว ท่านหญิง อย่าชิงหย่ากับข้า DECREED BY FATE ซีรีส์จีนความรักวุ่นๆของท่านหญิงและ2ท่านแม่ทัพ

สวัสดีค่ะ🤗 วันนี้จะขอแนะนำซีรีส์จีนเรื่องใหม่ เรื่อง " ท่านหญิง อย่าชิงหย่ากับข้า DECREED BY FATE  " ซีรีส์จีนที่พึ่งเริ่มออนแอร์ แนวพีเรียดโรแมนติกดราม่า เป็นซีรีส์ไม่ยาวมาก นำแสดงโดย หลีจิ่วหลิน อู๋ฉงเซวียน เฉินฟางถง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับท่านหญิงที่ต้องแต่งงานกับแม่ทัพที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน และความบังเอิญที่ทำให้ทั้งสามคนมาพบกันเพราะโชคช่วย  เนื้อเรื่องสนุกดูง่าย นักแสดงงานดี น่ารัก งั้นเรามาทำความรู้จักเรื่องย่อและรีวิวสั้นๆกันก่อนเลยนะคะ 😍ท่านหญิง อย่าชิงหย่ากับข้า DECREED BY FATE  เรื่องนี้ได้เริ่มออกอากาศ 31 มีนาคม 2022 ซับไทยสามารถติดตามได้ทาง iQIYI ชื่ออังกฤษ : DECREED BY FATEชื่อไทย : ท่านหญิง อย่าชิงหย่ากับข้าชื่อจีน : 千金难逃ซับไทย : iQIYI สัญชาติ : จีนประเภท : พีเรียดโรแมนติกดราม่าตอน : 16 ตอนจบเรื่องย่อแย่หรงเอ๋อร์ ท่านหญิงเป็นคุณหนูตระกูลจวนเหลียนอ๋องที่มีชื่อเสียง แต่รงเอ๋อร์กับมีชื่อเสียงไม่ดีเกี่ยวกับตัวเองว่า ไม่สมกับเป็นหญิงผู้ดีนิสัยรักความยุติธรรม ไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย ทำให้พ่อบ้านมีความเป็นกังวลพยายามให้หรงเอ๋อแต่งงานแต่ก็ล้มเหลวเพราะแผนล่มเสมอ จนวันหนึ่งหรงเอ๋อร์ได้พบกับหนุ่ม 2 คนที่รู้สึกชอบ แต่แล้วมีพระราชโองการให้หรงเอ๋อร์ต้องแต่งงานกับ หยิ่นซือเสิ้น แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ไม่ธรรมดาและมากความสามารถแห่งจิ้งอันที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน หรงเอ๋อร์พยายามหนีการแต่งงานแต่เพราะเป็นสมรสพระราชทานจึงไม่ง่ายนัก เดินไปทางเมืองเพื่อเปิดสำนักงานแม่สื่อทำเรื่องหย่าให้ตัวเอง หยิ่นซือเสิ้น ตามหาภรรยาตัวเองและได้ไปถึงเมืองที่หรงเอ๋อร์อยู่ก่อนที่จะพบกัน ความวุ่นวายเมื่อสำนักงานแม่สื่อที่หรงเอ๋อร์แอบอ้างเปิดจะโดนเปิดเผยความจริง มีหนุ่ม 2 คนได้เข้ามาช่วยเหลือและเข้าหาโดยเปิดสำนักพ่อสื่อในเมืองแต่แท้จริงแล้วพวกเขาเป็นใคร ในสองคนนี้เองอาจมีหนึ่งในนั้นเป็นสามีของเธอด้วยเช่นกันนักแสดงเฉินฟางถง รับบท เย่หรงเอ๋อ คุณหนูตระกูลดังจวนเหลียนอ๋อง ไม่ชอบถูกบังคับรักความยุติธรรม ชอบช่วยเหลือคนอื่น นิสัยร่าเริงชอบท่องเที่ยวในเมือง เพราะโดนบังคับให้ดูตัวและแต่งงานหลายครั้งเลยวางแผนทำตัวเป็นผู้หญิง ชื่อเสียงไม่ดีไม่สนกฏเกณฑ์ไม่สมเป็นคุณหนูทำให้มักโดนนินทา ไม่มีคนอยากจะแต่งงานด้วย หลี่จิ่วหลิน รับบท หยิ่นซือเสิ้น โดยนางเอกเข้าใจผิดในตอนแรกว่าเป็นนักดนตรีในกองสังคีตแต่ก็คอยเหลือหรงเอ๋อ ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูดีทั้งรูปร่างหน้าตาและหุ่น นิสัยมาดนิ่งแท้จริงแล้วเป็นแม่ทัพมาสืบคดีอู๋ฉงเซวียน รับบท ฟางเซียนสวิน แม่ทัพ ภายนอกดูเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ รูปร่างงดงาม ร่าเริงแท้จริงแล้วเป็นแม่ทัพผู้เก่งกาจ มักเผชิญหน้าอย่างอ่อนโยน มั่นใจในตัวเองตัวอย่างซีรีส์https://www.youtube.com/watch?v=tbMHp8vnm70ab_channel=iQIYI%E7%88%B1%E5%A5%87%E8%89%BAรีวิวหลังการดูการดำเนินเรื่อง หนึ่งสตรีไม่ควรมีหลายสามี แต่ตั้งแต่สมัยโบราณผู้ชายมีได้หลายภรรยา เป็นการดำเนินเรื่องของซีรีส์ที่เรามักจะเรียกว่า พระเอก พระรอง และนางเอกท่านหญิง นางเอกไม่ต้องการที่ถูกบังคับจะแต่งงานเพียงต้องการตกหลุมรักอย่างอิสระด้วยตัวเอง ชีวิตเรา เราควรกำหนดเองเป็นการเล่าที่ตัวเอกหญิงอยากจะทำตามความคิดของตน โดยปกติแล้วพีเรียดจริงหลายๆเรื่องจะเห็นว่า ครอบครัวฝ่ายหญิงและการแต่งงานจะต้องผ่านทางแม่สื่อ ตระกูลดังแค่ไหนก็ตามหรือเหมือนเรื่องนี้ที่มีการประทานสมรสให้ก็ยังเหมือนบังคับแต่ง สุดท้ายนางเอกก็ยอมพอเจอว่าที่สามีที่อาจจะดูแลดีใส่ใจ ความเป็นสุภาพบุรุษอยู่บ้างก็เกิดคิดว่าอาจจะอยู่ด้วยอีกสักพักก่อนที่จะเข้าใจผิดว่า ท่านแม่ทัพมีเรื่องผู้หญิง นางเอกจึงหนีไปต่างเมืองเพราะต้องการไปทำสัญญาหย่าดังที่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาบ้างแล้ว หากเปิดสำนักได้ก็อาจจะได้หย่าสมรสพระราชทานแต่แล้วก็มีหนุ่ม 2 คนเข้ามาในชีวิตนางเอก การตกหลุมรักและแก้ปัญหาระหว่างสามีท่านแม่ทัพที่ไม่เคยเห็นหน้าหรืออีกหนึ่งหนุ่มที่สนใจเช่นกันตอนแรกคิดว่าเนื้อเรื่องจะเบาๆ ดูง่ายแต่การดำเนินเรื่องมีการหักมุมอยู่บ้าง เรื่องราวดำเนินไปเร็วไม่ยืดเยื้อมากแม้จะใส่ความหวานมาช่วงต้นแต่เนื้อเรื่องก็มีจุดตัดมาให้ได้ลุ้น นอกจากนี้ยังดำเนินเรื่องแบบที่เราให้เห็นว่าทำไมคนอยากหย่า การหลอกหลวง ทำร้ายนอกจากการไม่รัก หรือการแต่งงานเพื่อให้ผู้หญิงมีลูกผู้ชายให้ สอดคล้องกับความคิดในยุคปัจจุบัน ทำไมต้องแต่งงาน แต่งงานจริงๆแล้วเป็นเรื่องของใคร แต่ด้วยซีรีส์แสดงถึงยุคก่อนหน้าที่ชายยังเป็นใหญ่และการแต่งงานเป็นเรื่องของตระกูล มีส่วนดราม่าที่ทำให้เรารู้สึกเข้าข้างพระรองเสมอ 😂 คนดีที่เธอไม่รัก ทำทุกอย่างให้ แต่พระเอกก็ดี ดูแลนางเอกดีมาก พระรองสดใสน่ารักกับพระเอกมาดขรึม แต่งงานก่อนรักกันที่หลังมีเรื่องราวสืบสวนก่อนหย่าหรือการเข้ามาเปิดสำนักถือเนื้อเรื่องสนุกเล่าดี ดูได้ยาวๆไม่น่าเบื่อเคมีนักแสดงโปรดักชั่นเคมีระหว่างนักแสดงนั้นดีมากก ดีทั้ง 3 นักแสดงหลักเหมือนให้คนดูได้ลุ้นว่าจะอยู่กับใครก็ได้ด้วยนิสัยและบุคลิกของทั้งคู่ นางเอกหน้าตาน่ารักตากลมโตมาก ถือเป็นนางเอกจีนที่น่าจับตามองเล่นซีรีส์แนวนี้เหมาะ นักแสดงบางคนเราจะเคยเห็นเล่นซีรีส์อื่นบ้างแล้วแต่เรื่องนี้เล่นกันน่ารัก บทสาวใช้ข้างตัวนางเอกก็หน้าตาดี และเป็นอีกเรื่องที่โปรดักชั่นไม่เบานะคะอาจจะไม่ถึงเป็นโปรเจคยักษ์และเป็นมินิซีรีส์แต่ฉากในตลาดก็ใช้นักแสดงประกอบเยอะ ตลาดไม่ได้ดูคนน้อย แสง สีฉากดีสมกับซีรีส์จีนไม่ได้ดูเกินไปหรือแสงนวลมากนัก เพลงประกอบเพราะชุดคอสตูมเหมาะกับนักแสดงดูเป็นท่านหญิง คุณชาย ทำให้ดูได้เพลินๆเป็นซีรีส์ไม่ยาวมากตอนละประมาณ 30 นาที ดูไปกินข้าวไปช่วงพัก วันหยุดได้เลย เหมาะเป็นซีรีส์ดูสบายๆ สำหรับคนไม่ชอบดูแบบซีรีส์ยาว เนื้อเรื่องไม่เบาเกินไปสนุก มีเหตุมีผล นักแสดงหล่อน่ารัก แสดงโอเค แนะนำเลยนะคะ  😍บทความอื่นๆที่มีเนื้อหาคล้ายกัน😍รีวิว "ตงกงตำหนักบูรพา Good Bye My Princess" ซีรีส์ดราม่าปวดตับ! ( เฉินซิงซวี่,เผิงเสี่ยวหรัน แสดงนำ)ชวนดู+รีวิว " Designated Love รักนี้ดีไซน์ได้ " ระบบเกมเอาคืนแฟนเก่า ซีรีส์จีนโรแมนติก คอมเมดี้รีวิวซีรีส์ รักแรกอลวน First Love Again ซีรีส์โรแมนติกดราม่า แนวย้อนเวลาแก้ไขอดีต ห้ามคัดลอกเนื้อหาโดยไม่ได้รับอนุญาต mybl.sugarCredit รูปและคลิปคลิปตัวอย่าง iQIYI   : 1网剧千金难逃 : รูปภาพที่ 1 / 2  3  4 / 5 / 6 / 7  หน้าปกเกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !

ซีพีเอฟ สร้าง “ศูนย์การเรียนรู้และพัฒนาพนักงานตามกลุ่มธุรกิจ” (Technical Academy)
อ่าน

ซีพีเอฟ สร้าง “ศูนย์การเรียนรู้และพัฒนาพนักงานตามกลุ่มธุรกิจ” (Technical Academy)

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ตั้ง ศูนย์การเรียนรู้และพัฒนาพนักงานตามกลุ่มธุรกิจ (Technical Academy) พัฒนาขีดความสามารถ และทักษะใหม่ๆ ของพนักงานให้ตอบโจทย์กลยุทธ์ธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต พร้อมทั้งมอบรางวัล CPF KM Excellence Awards 2023 แก่ 10 ผลงานที่ชนะการประกวดในการจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management) หรือ KM ที่มีผลลัพธ์โดดเด่นช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องนายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟ มุ่งมั่นที่จะเป็น องค์กรแห่งการเรียนรู้ ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะและความรู้อย่างต่อเนื่อง ให้พร้อมต่อการเติบโตของธุรกิจ บริษัทฯ จึงจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้และพัฒนาพนักงานตามกลุ่มธุรกิจ (Technical Academy) ของแต่ละหน่วยงานขึ้น เพื่อส่งเสริมให้แต่ละหน่วยงานสร้างและพัฒนาองค์ความรู้เฉพาะด้านอย่างมีระบบและเป็นมาตรฐาน ช่วยให้พนักงานมีความรู้และทักษะที่จำเป็นปฏิบัติงานได้ตามกลยุทธ์ของสายธุรกิจ สอดคล้องกับค่านิยมองค์กร CPF Ways และในปีนี้ บริษัทได้จัดการประกวดรางวัล CPF KM Excellence Award 2023 ขึ้นเป็นครั้งแรก มอบรางวัลให้แก่หน่วยธุรกิจที่มีการจัดการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่โดดเด่นเป็นแบบอย่างแก่หน่วยธุรกิจอื่นๆ ต่อไป การจัดงานครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก เพราะเราเชื่อว่าการรวบรวมองค์ความรู้ต่างๆจากการทำงานจริงและเก็บมาเป็นคู่มือ เป็นการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับค่านิยมของบริษัท คือความรวดเร็ว และมีคุณภาพ โครงการต่างๆทั้ง 10 โครงการจะนำไปใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่อง และอีก 90 โครงการ ก็มีโอกาสที่จะกลับไปปรับปรุงทำให้ดียิ่งขึ้นและกลับมาทำเป็นความรู้ต่อยอดของเราได้อีก ขอขอบคุณท่านผู้บริหาร พนักงาน ทีมเถ้าแก่ที่ช่วยพัฒนา KM ของเราขึ้นมา และสามารถนำไปใช้เป็นประโยชน์ได้จริง นายประสิทธิ์ กล่าวสำหรับการมอบรางวัล CPF KM Excellence Award 2023 ครั้งนี้ มีโครงการเข้าประกวดเกือบ 100 ผลงาน จาก 23 หน่วยธุรกิจของบริษัท โดยมี 10 โครงการที่ได้รับการพิจารณาให้ได้รับรางวัล ประกอบด้วย รางวัลสูงสุด รางวัล CEO Award จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ การจัดการโรค ASF แบบบูรณาการ จากหน่วยงานบริการวิชาการสุกร นำโดยนายสัตวแพทย์ ดำเนิน จตุรวิธวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซึ่งได้พัฒนา Application และการออกแบบองค์ความรู้แบบ One-page infographic และ e-learning ช่วยให้พนักงานเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันการเกิดโรคในฟาร์มสุกร ช่วยป้องกันความเสียหายให้กับฟาร์มของบริษัทและคู่ค้าอย่างมีประสิทธิภาพ องค์ความรู้ที่ได้จากโครงการนี้ยังถูกส่งต่อไปยังเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูทั่วประเทศ ตอกย้ำหลักการ 3 ประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจของเครือซีพี ได้แก่ สร้างประโยชน์ประเทศ สังคม และบริษัทนอกจากนี้ยังมี รางวัล Platinum Awards จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ Axons Sign: The KM Agile จาก Axons และโครงการสุกรขุนน้ำหนัก 145 กิโลกรัม ของธุรกิจสุกร รางวัล Gold Awards จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ องค์ความรู้ลูกกุ้ง มุ่งสู่ความสำเร็จของลูกค้า โดยธุรกิจสัตว์น้ำ โครงการ CP Meiji Milk for B2B Coffee Business โดย ซีพี เมจิ และต้นแบบการจัดการสินค้าแบบแช่แข็งทั้งกล่องด้วยระบบอัตโนมัติ โดยธุรกิจสุกร สำหรับ รางวัล Silver Awards จำนวน 4 รางวัล ประกอบด้วย KM Shrimp Farm ทีเด็ดสู่การสร้างธุรกิจ สร้างคน สร้างผลตอบแทนโดยธุรกิจสัตว์น้ำ โครงการ App Guide for Sales and Partners โดย Axons โครงการ Lab Classroom Knowledge Management โดย QA Lab และโครงการ เปลี่ยนเลนแซง...การเพิ่มมูลค่าไก่พันธุ์ปลด (บะช่ออร่อยเพิ่ม) ของศูนย์วิจัยพัฒนาอาหารทั้งนี้ เกณฑ์การพิจารณาแบ่งเป็น 4 ด้าน ได้แก่ ด้าน KM Process มีกระบวนการรวบรวม จัดเก็บ และอัพเดตอย่างเป็นระบบ มีการส่งเสริมการเข้าถึงองค์ความรู้ และแบ่งปันองค์ความรู้ในรูปแบบต่างๆ ด้าน Initiative การต่อยอด หรือพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับบริบทของธุรกิจ และสร้างความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจ ด้าน Implementation คือสามารถนำเนื้อหาไปใช้เป็นประโยชน์ในระดับหน่วยธุรกิจ ข้ามธุรกิจ หรือภายนอกองค์กรได้ เช่น คู่ค้า สังคม เป็นต้น และ Impact เกิดผลลัพธ์ที่วัดผลได้ชัดเจนซีพีเอฟยังมีแผนการพัฒนาองค์ความรู้ของหน่วยงานอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้า ทุกหน่วยธุรกิจของซีพีเอฟจะต้องจัดตั้ง Technical Academy พร้อมทั้งจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานในรูปแบบดิจิทัล เพื่อให้พนักงานรุ่นใหม่มีความรู้สามารถปฎิบัติงานจริงได้ทันที รวมถึงพัฒนา หลักสูตร e-Learning สำหรับทักษะเฉพาะด้านของธุรกิจ มากกว่า 2,000 หลักสูตร ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนองค์กรอย่างยั่งยืนและสามารถส่งต่อคุณค่าขององค์กรสู่สังคมภายนอกต่อไป

รีวิว น้ำแร่ธรรมชาติ ที่มีชื่อว่า "6tyº Sixty Degrees "
อ่าน

รีวิว น้ำแร่ธรรมชาติ ที่มีชื่อว่า "6tyº Sixty Degrees "

รู้หรือไม่ว่าการดื่มน้ำนั้นมีประโยชน์มากน้อยเพียงใด ทำไมเราต้องดื่มน้ำให้เพียงพอให้แต่ละวัน และการได้ดื่มเปล่าที่สะอาดก็ย่อมส่งดีต่อสุขภาพ เช่นทำให้ร่างกายไม่เสียสมดุล ผิวพรรณสดใส อารมณ์แจ่มใสและส่งดีต่อสุขภาพอื่นๆอีกมากมาย วันนี้เลยเลือกเลือกน้ำดื่มน้ำแร่ธรรมชาติมาฝากเพื่อนๆ เป็นน้ำแร่ธรรมชาติที่มีชื่อว่า "6tyº" น้ำดื่มจากแหล่งธรรมชาติจากน้ำพุเชียงดาว ในร้านสะดวกซื้อทั่วไปหรือที่เซเว่นทุกสาขาก็มีขายแล้วเช่นกัน ทำไมถึงเป็นน้ำแร่ธรรมชาติ 6tyº ขวดนี้ มาฟังคำตอบกันค่ะน้ำดื่มจากแหล่งธรรมชาติคืออะไร?  น้ำที่ผุดเกิดขึ้นได้จากแหล่งธรรมชาติทั่วไป เช่น แม่น้ำ ลำคลอง ซึ่งน้ำแร่ที่เกิดขึ้นแบบนี้จะมีแร่ธาตุที่สำคัญโดยไม่ต้องผ่านกรรมวิธีการแต่งเติมเข้าไปในน้ำนั่นเอง ในน้ำแร่ธรรมชาติจะพบแร่ธาตุที่สำคัญนั่นก็คือ แคลเซียม คลอไรด์ ฟลูออไรด์ โซเดียม โพแทสเซียม ไอโอดีน กำมะถัน แมกนีเซียม แร่ธาตุเหล่านะขึ้นอยู่กับแหล่งที่มานั้นๆ ซึ่งแร่ธาตุเหล่านี้จะส่งผลดีต่อลำไส้ กระดูกและฟัน รวมถึงหัวใจ นั่นเอง6tyº ทำไมเราถึงเลือกขวดนี้ เพราะเป็นน้ำแร่จากแหล่งน้ำธรรมชาติจากแหล่งน้ำพุร้อนเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ขนาดขวดไม่เล็กไม่ใหญ่พกพาง่าย ติดกระเป๋าได้แบบสบายๆขนาด 520 มิลลิลิตร ราคาขวดนี้อยู่ที่ 12 บาท ขวดมีสีฟ้า สลากน่าดูน่าอ่าน บอกความเป็นมาของน้ำขวดนี้อย่างชัดเจน  ถ้ามองทะลุขวดเข้าไปข้างในจะเห็นรูปภูเขาสวยๆด้านใน และในเวลาที่เราต้องเดินทางไกลบ่อยๆบางทีเราก็เลือกน้ำดื่ม 6tyº ขวดนี้แหละ บวกกับน้ำดื่มน้ำเปล่าให้เพียงต่อร่างกาย อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ทำไมถึงต้องมีน้ำแร่ด้วย เพราะถ้าเรารู้สึกเหนื่อยหรือไม่สดชื่นถ้าได้ดื่มน้ำแร่ก็จะช่วยให้เราสดชื่นได้เร็วขึ้น ร่างกายจะกระปรี่กระเปล่าเร็วขึ้นมากกว่าการดื่มน้ำเปล่าธรรมดา เราก็เลยเลือกที่จะติด 6tyº ติดกระเป๋าเวลาที่เดินทางบวกกับน้ำเปล่าด้วย คือเราไม่ดื่มแค่น้ำแร่ 6tyº เราจะดื่มน้ำเปล่าด้วย โดยดื่ม 6tyº แค่วันละขวด ถ้าเดินทางไกลแค่นั้น เพราะถ้าดื่มน้ำแร่มากไปก็อาจจะส่งผลไม่ดีต่อร่างกายได้ พูดถึงเรื่องดีของการดื่มน้ำแร่กันก่อน นอกจากจะช่วยทำให้ร่างกายของเราสดชื่นแล้ว ยังช่วยทำให้ผิวของเราชุ่มชื้นขึ้นมากด้วย รสชาติของน้ำอร่อยไม่มีกลิ่น ยังช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญด้วยนะ ใครที่ไม่ชอบทานผักหรือท้องผูกบ่อย ก็มีส่วนช่วยทำให้ขับถ่ายได้ดีด้วยแต่ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าธาตุของแต่ละคนด้วยนะ ว่าจะได้ผลมากน้อยเพียงไหน ไม่ได้มีดีแค่นี้ เราจะได้สัมผัสเรื่องดีๆตั้งแต่เปิดขวดเลยก็ว่าได้ เพราะปกติแล้วขวดน้ำโดยทั่วไป เมื่อเราเปิดฝา ฝาจะหลุดออกจากขวดเองแต่สำหรับ 6tyº นั้นไม่ ไม่เป็นแบบนั้น เมื่อเราเปิดฝาฝาขวดจะติดอยู่ที่ปากเลย ไม่ต้องหาฝาขวดให้ยาก แถมเปิด - ปิดง่าย ไม่ต้องแยกจากกันแล้วนะ ขวดก็ไม่หนาหรือบางจนเกินไปจับถนัดมือพอดีด้วย อย่างเท่เลยทีนี้  ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้ มันพร้อมจบในขวดเดียวเลยแหละกับน้ำแร่ธรรมชาติที่มีชื่อว่า 6tyº แต่ แต่ แต่!!! เดี๋ยวก่อน???  การดื่มน้ำเป็นเรื่องที่ดีและมีความจำเป็นต่อร่างกายเรามาก ทั้งนี้การดื่มน้ำแร่ธรรมชาติมากเกินไปก็อาจส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพได้เช่นกัน เพราะถ้าเราคิดว่าน้ำแร่ธรรมชาติมันดีก็ดื่มแต่น้ำแร่ธรรมชาติมันก็ดีค่ะมันก็ได้ค่ะ แต่น้ำแร่ธรรมชาติมีแร่ธาตุต่างๆที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่ถ้าได้รับมันมากเกินไปก็จะทำให้ร่างกายของเราเกิดอาการท้องไส้ปั่นป่วนได้ เพราน้ำแร่โดยส่วนมากจะถูกบรรจุมาในภาชนะขวดพลาสติก ซึ่งในขวดพลาสติกอาจมีการปนเปื้อนของไมโครพลาสติกอยู่และอาจส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพได้ ดังนั้น เราจึงควรดื่มน้ำแร่สลับกับน้ำเปล่าธรรมดา โดยดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอในแต่ละวัน อย่างน้อย 8 แก้ว และน้ำแร่ประมาณ 1 ขวดหรือ 2-3 แก้วต่อวัน หรือนานๆจะดื่มน้ำแร่ธรรมชาติก็ได้ค่ะ "6tyº น้ำแร่ธรรมชาติ" โดยรวมแล้วเราชอบตั้งแต่ขวด ตัวหนังสือและแหล่งที่มาให้อ่านกันแบบเพลินๆ ฝาขวดอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ยอมแยกออกจากตัวขวด เหมือนขวดน้ำแบบอื่นๆ ดื่มเพลินดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น ดื่มง่ายไม่มีกลิ่นคาวแต่อย่างใด ราคาก็ถือว่าโอเค สะดวกต่อการซื้อไม่แพงจนเกินไป และความอยากลองอีกเช่นเคยดื่มแล้ว ให้กี่คะแนนดี 10/10 ละกัน ใครชอบและอยากดื่มก็ไปหาซื้อกันได้ ที่ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นก็ได้ ราคาขวดละ 12 บาท สุดท้ายนี้เราหวังว่าเพื่อนๆจะชื่นชอบบทความบทนี้ และเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆไม่มากก็น้อยนะคะ ภาพปก ออกแบบจากCanvaโดยผู้เขียนบทความภาพประกอบบทความทั้งหมดโดยผู้เขียนบทความ หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !

ลงทะเบียน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เปิดจองพรุ่งนี้!
อ่าน

ลงทะเบียน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เปิดจองพรุ่งนี้!

วันนี้ (14 ก.ค.63) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยืนยันว่า รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมสำหรับการลงทะเบียน "เราเที่ยวด้วยกัน" ไว้พร้อมแล้ว และเชื่อว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวน่าจะใช้เงินเพียงแค่ 50% ของกรอบวงเงินที่ขออนุมัติจาก ครม.ไว้ โดยเฉพาะกรอบวงเงินที่ใช้การสนับสนุนค่าโรงแรมที่พัก รวมทั้งค่าสนับสนุนร้านอาหาร และค่าเข้าแหล่งท่องเที่ยว ที่ตั้งกรอบวงเงินไว้ 1.8 หมื่นล้านบาทแต่อย่างไรก็ตามคงต้องประเมินผลการเข้ามาใช้สิทธิ์จองที่พักของผู้ที่เข้ามาลงทะเบียนร่วมโครงการก่อนว่าจะเต็มทั้งหมด 5 ล้านคืน และมีเงินเหลืออยู่เท่าใด เพราะประเมินว่า คนส่วนใหญ่คงจองห้องพักราคาเฉลี่ยแค่คืนละ 1,000 – 3,500 บาทเท่านั้นดังนั้น หากมีเงินเหลืออยู่เป็นไปตามที่คาดไว้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะคุยกับกระทรวงการคลัง เพื่อเสนอ ครม.ขอขยายจำนวนห้องพักเพิ่มเติมให้กับผู้ที่เข้ามาจองห้องพักไม่ทันในรอบแรกด้วยนายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า การทำโครงการครั้งนี้จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางและใช้จ่ายภายในประเทศ เพราะสานการณ์ท่องเที่ยวตอนนี้ต้องฝากความหวังไว้ที่การเดินทางของคนไทยเที่ยวไทยเป็นหลัก พร้อมตั้งเป้าหมายทั้งปีว่า จะต้องมีรายได้จากการท่องเที่ยว 1.23 ล้านล้านบาททั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรุ่งนี้ (15 ก.ค.) จะเป็นวันแรกของการเปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.comโดยจะเริ่มเปิดจองตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. ทุกวันเพื่อรับสิทธิ์ส่วนลดค่าที่พัก ค่าอาหารและค่าตั๋วเครื่องบินจากรัฐบาล 40% โดยคาดว่าประชาชนจะแห่จองรับสิทธิ์เต็มตั้งแต่วันแรกสำหรับคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ มีดังนี้- เป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน- มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียนต้องเลือกท่องเที่ยว กิน และพักในจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่จังหวัดตามทะเบียนบ้านของตนเอง- ต้องมีสมาร์ทโฟนที่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ ท่องเที่ยว ที่พัก และสิทธิประโยชน์อื่นๆ- ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “เป๋าตังค์” และยืนยันตัวตนในแอปฯ รอไว้ข่าวที่เกี่ยวข้อง8 คำถามยอดฮิต! ลงทะเบียน www.เราเที่ยวด้วยกัน.comเช็กกันหรือยัง! ระบบเปิดค้นหาโรงแรม ร้านอาหาร เข้าร่วม "เราเที่ยวด้วยกัน"ที่เดียวครบ! วิธีลงทะเบียน จองโรงแรม รับเงินคืน ใช้คูปอง www.เราเที่ยวด้วยกัน.comเกาะติดข่าวที่นี่website: www.TNNThailand.comfacebook : TNNThailandfacebook live : TNN Livetwitter : @TNNThailandLine : @TNNONLINEYoutube Official : TNNThailandInstagram : @tnn_onlineTIKTOK : @tnnonline